หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

(ตอนที่ ๑๑) บทที่ บทที่ ๘ ศีลที่เกิดจากปัญญา (พบโป้ยก่าย)

บทที่ ๘ ศีลที่เกิดจากปัญญา


วันหนึ่งจวนค่ำแล้ว เห้งเจียจูงม้า มีพระถังนั่งอยู่จนลุถึงหมู่บ้านเกาเล้าจึง เจ้าของบ้านชื่อเกาท้ายกงมีลูกสาว ๓ คน คนโตชื่อกล้วยไม้กลิ่นหอม คนกลางชื่อกล้วยไม้หยก คนสุดท้องชื่อกล้วยไม้น้ำเงิน (จุ๋ยลั้น)ทั้งบ้านได้รับความทุกข์โศก เนื่องจากปีศาจหมูตนหนึ่ง มาข่มขืนนางจุ๋ยลั้นเอาเป็นภรรยา เกาท้ายกงบิดาพยายามหาหมอผีดี ๆ มาขับไล่ก็แพ้แก่ปีศาจหมดสิ้น

เห้งเจียจึงได้ขันอาสาจะปราบปีศาจหมู โดยแปลงกายเป็นจุ๋ยลั้น นอนรอเวลามาของปีศาจ ฝ่ายปีศาจหมูตือกังเจีย ที่พระโพธิสัตว์กวนอิมเรียกชื่อว่าตือหงอเหนง เป็นปีศาจที่มีอิทธิฤทธิ์มาก มันมีอาวุธวิเศษคือคราดเก้าซี่ พอตกกลางคืน ตือหงอเหนงก็ออกจากถ้ำมาเป็นสายลม มุ่งสู่ห้องนอนของนางจุ๋ยลั้น ปลุกปล้ำกันพักหนึ่ง จุ๋ยลั้นก็กลับกลายเป็นเห้งเจีย สู้รบกันเป็นสามารถ

ครั้นพูดจาไต่ถามกันขึ้น หงอเหนงจึงได้รู้ว่าพระถังคือผู้ที่จะไปอาราธนาพระไตรปิฎกที่ไซที จึงได้ยอมคำนับและนับถือเห้งเจียว่าเป็นพี่ ขอติดตามไปไซที พระถังตั้งชื่อใหม่ให้ว่าตือโป้ยก่าย คณะไปไซทีต่างเปลี่ยนรองเท้าใหม่ แล้วอำลาเกาท้ายกง ออกเดินทางจากหมู่บ้านเกาเล้าจึง บ่ายหน้าสู่ป่าใหญ่ มุ่งไปยังไซที




นาม :ผมรู้ล่วงหน้าแล้วว่าโป้ยก่ายคือศีล และซัวเจ๋งที่จะพบต่อไปคือสมาธิ แต่ทำไมอาจารย์จึงแต่งให้ศีลเที่ยวข่มขืนชำเราลูกสาวชาวบ้านด้วยเล่า ?

โหงว :เพราะว่าศีลนั้น หากไม่มีปัญญากำกับแล้ว มันก็เถื่อนและจะพาเข้ารกเข้าพง และศีลที่ขาดปัญญามันจะทุลเรื่อย ศีลที่ขาดปัญญาจึงได้เป้นปีศาจอยู่ จนกว่าจะถึงเขตแดนโซจ๊อกในไซที

รูป : อะไรครับแดนโซจ๊อก ?

โหงว :โซจ๊อกคือเขตโลกุตตระ หมายความว่าการเดินทางของใจขณะเป็นโลกียะ คือล้มลุกคลุกคลาน ปัญญาก้เถื่อน ศีลก็ทุ สมาธิก็ซึมกระทือ ครั้นปัญญา(เห้งเจีย) ศีล(โป้ยก่าย) สมาธิ (ซัวเจ๋ง) ขันติ(พระถัง) สมังคีกันดี เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน นั่นคือเขตโซจ๊อก

นาม :หมายความว่าศีลของชีวิตที่น้อมไปทางโลกุตตระนั้น ต้องมีปัญญา มิฉะนั้นศีลนั้นจะเป็นปีศาจ คอยมาข่มขืนชำเราลูกสาวของชาวบ้าน ใช่ไหมครับ ?

โหงว :ใช่แล้ว ลูกสาวสามคนของเกาท้ายกง คนโต"นางกล้วยไม้กลิ่นหอม" คือจุลศีล คนกลาง"นางกล้วยไม้หยก" คือ มัชฌิมศีล คนสุดท้อง "นางกล้วยไม้น้ำเงิน" คือมหาศีล ขาดปัญญาแล้วการรักษาศีลชั้นเลิศจะเป็นไปไม่ได้ จะฉุกละหุกโกลาหลวุ่นวาย ต้องปกปิดพรหมจรรย์ อุปมาด้วยปีศาจหมูต้องแอบมาช่มชืนชำเรานางจุ๋ยลั้นทุกค่ำคืน มิได้เป็นเจ้าของ(สามี)ของศีลจริง ๆ 

นาม : โอ้โห...อาจารย์ไปไกลขนาดนั้นเชียวหรือ 

รูป :ผมว่าไม่ตีปริศนาสนุกกว่า คือมีบทอนาจาร ที่นักเขียนยุคนี้นิยม 

โหงว :การชำเราศีลของเรามีความหมายว่า เพราะขาดปัญญา การมีศีลขั้นสูงสุดเป็นได้เพียงการทำท่าทางหลอกชาวบ้านเท่านั้น

นาม :นั่นคือปีศาจหมู ตะกละและขี้เซา แต่เดี๋ยวก่อนครับ โป้ยก่ายมีคราดวิเศษ ๙ ซี่ นี่มันอะไรกัน?

รูป :แล้วกัน แกนี่ คราดก็คราด จะไปนับซี่นับความอยู่ได้ 

โหงว :หน้าที่ของศีลคืออะไรรึเจ้า...? ถ้ามิใช่การคราดกวาดสับกิเลสหยาบทางกาย วาจา ส่วน ๙ ซี่นั้นเล็งเอาสังฆคุณ ๙ เพราะศีลคือตัวแท้ของคุณของสมณะ ที่จะพึงเห็นได้โดยง่าย

นาม :คือ สุปฏิปันโน ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ อุชุปฏิปันโน ปฏิบัติตรง ญายปฏิปันโน ปฏิบัติเพื่อออกจากทุกข์ไม่ใช่เพิ่มทุกข์ สามีจิปฏิปันโน ปฏิบัติพอควรพอเหมาะพอสม อาหุเนยโย เป็นผู้ควรแก่สักการะที่เขานำมาบูชา ปาหุเนยโย เป็นผู้ควรแก่สักการะที่เขาจัดไว้ต้อนรับ ทักชิเญยโย เป็นผู้ควรรับทักษิณาทาน อัญชลิกรณีโย เป็นผู้ควรอัญชลี อนุตตรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสะ เป็นเนื้อนาบุญของโลก

โหงว : เก่ง สังฆคุณ ๙ คืออาวุธวิเศษของศีล ทีน้อมเข้าใส่ตัวแล้วมีปัญญามุ่งสู่นิพพาน

รูป :ท่านอาจารย์ เล่าต่อไปดีกว่าครับ มัวชักช้าอยู่แต่เฉลย ไม่สนุกเลย 

โหงว :อดใจหน่อยซี เราเฉลยอุปมาเหล่านี้ตอนต้นมาก ๆ เพื่อว่าจะได้เข้าใจวิธีมองด้านในของเราแล้ว ตอนท้าย ๆ เจ้าจะเข้าใจได้เองความสนุกทางจิตวิญญาณจะเกิดขึ้น เอาละ ถ้าเจ้ายังอยากฟัง เราจะเล่าเรื่องในบทต่อไป


**คัดจาก "เดินทางไกลกับไซอิ๋ว" โดย "เขมานันทะ" หน้า ๓๐ - ๓๓ 





(** จบบทที่ ๘ โปรดติดตามตอนต่อไป...)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น