ภิกษุต้อง "ไม่มีใจ"
พระถังและศิษย์เดินทางรอนแรมไปจนถึงเขตเมืองปี๊เบียก๊ก(เมืองภิกษุ) แต่ขณะนั้น ชาวเมืองได้เปลี่ยนชื่อเป็น เมืองเซี้ยวจื๊อก๊ก เพราะเหตุที่พระราชาได้สนมเอกธิดาของปีศาจที่แปลงมาเป็นเต้าหยินเชียงก๊ก พระราชาทรงหลงใหลในเมถุนที่นางสนมเอกบำเรอ จนซูบผอมเกิดโรคร้ายขึ้น เฒ่าเชียงก๊กจึงบอกยารักษาโรคที่ต้องใช้น้ำกระสายที่ทำจากตับเด็ก ๑,๑๑๑ ตับ ทั้งนี้ปีศาจจะกินตับเด็ก ประชาชนต้องถูกบังคับให้นำบุตร - ธิดา มาใส่กรงห่าน ตั้งไว้หน้าบ้าน เพื่อรอเวลาฆ่าเอาตับ
เมื่อพระถังทราบถึงปัญหาของชาวบ้านเฃแล้ว เวทนาสงสารเด็ก ๆ ยิ่งนัก จึงขอให้เห้งเจียช่วยเหลือ เห้งเจียจึงบันดาลให้มีลมพัด มาหอบกรงห่านที่บรรจุเด็กเหล่านั้นไปซ่อนไว้ในป่า แล้วพระถังพร้อมด้วยลูกศิษย์ ก็เข้าเฝ้าพระราชาเพื่อขอตราประทับหนังสือผ่านเมือง
ในขณะนั้น เฒ่าเชียงก๊กเห็นว่าพระถังเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ก็กล่าวคำสบประมาทคำสอนของพระพุทธเจ้าต่าง ๆ นานา แล้วแสร้งเพ็ดทูลพระราชาว่า หากใช้หัวใจดำของพระถังเป็นน้ำกระสายแทนตับเด็กแล้ว อายุจะยืนนับหมื่นปี พระราชาทรงยินดียิ่งนัก จึงกล่าวขอหัวใจกับพระถัง
ฝ่ายเห้งเจียเห็นมิเป็นการ จึงร่ายมนต์จำแลงตนเองเป็นพระถัง กำบังพระถังให้เป็นเห้งเจียแล้ว พระถังเก๊ก็แสดงความยินดีที่จะมอบหัวใจถวายพระราชา ครั้นแล้วพระถังจำแลงก็ใช้มือแหวกหน้าอกให้ทุกคนในที่นั้นดู แต่หามีใจที่ปีศาจต้องการไม่ (คือว่าเห้งเจียนั้น ไม่มีใจ)
เมื่อเห้งเจียแหวกอกให้ดูแล้วก็กลับร่างเข้าสู่ร่างเดิม ชักตะบองวิเศษออกไล่ฆ่าปีศาจเชียงก๊ก ปีศาจรุดหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่ถ้ำเชงฮั้วต๋อง ที่มีห้วยน้ำใสสะอาดและมีดงสน
เห้งเจียกับโป้ยก่ายก็เหาะตามปีศาจมาหมายจะฆ่าเสียให้ตาย เห้งเจียค้นพบประตูกลแล้ว ประตูถ้ำก็เปิด เห้งเจียก็มองเห็นเฒ่าเชียงก๊กกำลังนั่งกอดธิดาสาวอยู่ จึงเข้าสู้รบกันโกลาหล ในขณะนั้น โป้ยก่ายก็เอาคราดเก้าซี่สับต้นสนต้นใหญ่ มีโลหิตคนไหลออกมา โป้ยก่ายก็พูดขึ้นว่า " ต้นสนนี้นานปีเข้ามักกลายเป็นปีศาจ"
ฝ่ายเห้งเจียสู้รบกับเชียงก๊ก ครั้นพอได้โอกาสก็ใช้ตะบองทุบธิดาสาวเสียแหลกเหลว ร่างกลับกลายเป็นเสือปลาขาว ในขณะที่เห้งเจียจวน ๆ จะฆ่าปีศาจเชียงก๊กนั้น เทพเจ้าประจำดาวน่ำก๊กลิ้วแชได้เหาะมาทันและร้องขอชีวิตไว้ บอกว่าปีศาจนั่นคือกวางขาว พาหนะของตน เห้งเจียก็ไว้ชีวิต แล้วชวนโป้ยก่ายเหาะกลับเมืองปี๊เบียก๊ก แล้วไปนำเด็ก ๆ ที่ซ่อนไว้ในป่ากลับมาคืนบิดามารดา พระราชาก็หายประชวร ชาวเมืองก็สักการะคณะเดินทางไปไซทียิ่งนัก
ทั้งหมดถวายบังคมลาพระราชาแล้วออกเดินทางมุ่งสู่ไซทีต่อไป..................
นาม : ปีศาจเชียงก๊ก อาศัยอยู่ในถ้ำเชงฮั้วต๋อง มีห้วยน้ำใสสะอาดมีดงสน...
รูป : ดงสนที่นานวันเข้าจะกลายเป็นปีศาจ
นาม : ต้นสนคือ ความสุขที่เป็นสุขของกิเลส จึงยิ่งสุขนานเข้าจะกลายเป็นปีศาจฉุดชีวิตไว้
รูป : ปีศาจเชียงก๊กกับธิดาสาวคืออะไร ?
นาม : มิจฉาอาชีโว - อาชีพผิด อาชีพชั่ว
รูป : อาชีพผิด อาชีพชั่ว แล้วจะสุขได้หรือ ?
นาม : เป็นภิกษุ หรือฆราวาสมีอาชีพผิด อาชีพชั่วก็เป็นสุขของกิเลสน่ะสิ
รูป : โป้ยก่ายเอาคราดเก้าซี่สับต้นสนใหญ่พินาศล่ะ ?
นาม : ศีลของภิกษุ คือ สังฆคุณ ๙ นั่นล่ะ จะมาทำลายความสุขจอมปลอมให้หายไป
รูป : เห้งเจียฆ่าธิดาปีศาจ ?
นาม : ปัญญาก็ฆ่าอาชีพผิด อาชีพชั่ว ที่เป็นพระเพียงเพื่อใช้จีวรคลุมกายแสวงหาความสุขให้แก่กิเลสน่ะซี
รูป : นี่คืออาชีพผิด อาชีพชั่ว เอาจีวรบังหน้า ดุจดังเสือปลา...
โหงว : เห้งเจียไว้ชีวิตกวางขาวล่ะ ?
นาม : เพราะว่าสัมมาอาชีโว คืออาชีพชอบที่อุปมาด้วยกวางขาว เป็นพาหนะของชีวิตทางธรรม
รูป : (หัวเราะ) แล้วตอนเห้งเจียแหวกอก เหมือนรามเกียรติ์ตอนหนุมานฉีกอกให้ทศกัณฐ์ดูว่ามีแต่สีดากับพระราม อาจารย์กลับแต่งให้เห้งเจียมีแต่ใจชนิดที่ผีไม่ปรารถนา
นาม : ใช่ซี ภิกษุผู้มีปัญญาเป็นพระจริงนั้นต้องไม่มีใจ คือใจที่ปราศจากสิ่งทุกสิ่ง ใจที่ไร้ใจ ไร้กิเลส ไร้ทุกสิ่ง
โหงว : ด้วยเหตุที่ภิกษุ "ไม่มีใจ" จึงฆ่ามิจฉาอาชีโวเสียได้ คือกลับเป็นผู้มีอาชีพชอบ
รูป : อาจารย์ไม่กลัวตกนรกบ้างหรือครับ แต่งพิเรนอย่างนี้ ?
โหงว : ตกก็ตก
นาม : ทีนี้ขอฟังเรื่องปีศาจ..........ตัวฉกาจเถิดอาจารย์
โหงว : เอ้า...ผีสาวจากบาดาล.....ต้องการน้ำกระสายยา
จำเพาะน้ำสัมภวะ...........ของพระถังนั่นเทียวหนา
รูป : โอ๊ย ผีจัญไร เล่นบ้าบ้า
นาม : สัปดนเสียจริงจริ๊ง
** คัดจาก "เดินทางไกลกับไซอิ๋ว" โดย "เขมานันทะ" หน้า ๒๑๑ - ๒๑๕ )
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น