คณะไปไซทีมาถึงบ้านผู้เฒ่าแซ่อ้วง ครั้นผู้เฒ่าทราบว่าจะไปยังไซทีก็แนะนำว่า "หากจะไปทิศตะวันตก จงออกเดินไปทางทิศตะวันออกก็จะถึง" ฝ่ายเห้งเจียนั้น เชื่อมั่นในตะบองของตัวที่จะนำไปไซทีก็ยืนยันที่จะเดินทางสู่ทิศตะวันตกอยู่
โป้ยก่ายแสดงอาการหยาบช้า ปากยื่น ผึ่งหู จนพระถังรำคาญ
จนเห้งเจียแนะนำให้ซ่อนปากไว้ในคอและเอาใบหูรัด รวบไว้ที่ท้ายทอย
ศิษย์และอาจารย์ได้รับการเลี้ยงดูอย่างอิ่มหนำ แล้วก็อำลาตาเฒ่าออกเดินทางมุ่งสู่ป่าใหญ่
โหงว : ตรงนี้ต้องเฉลยไหม
นาม : ไม่ต้องครับ เหลาจื้อกล่าวไว้ว่า ถ้าจะไปข้างหน้า ให้ถอยหลัง คนไทยโบราณกล่าวว่า "ทางใหญ่อย่าจร" คำของผู้รู้ทั้งหลายที่เน้นความหมายว่า "ยิ่งอยากไปนิพพานอย่างโง่ ๆ เท่าใด ยิ่งไม่ถึงนิพพาน ยิ่งอยากเป็นพระอรหันต์เท่าใด ยิ่งมิได้เป็นยิ่งขึ้น " เพราะพระอรหันต์ท่านหมดอยาก ยิ่งอยากก็ยิ่งห่างออกไปทุกที ยิ่งไม่อยากเป็นอะไรเลย ไม่อยากได้อะไรเลยก็ยิ่งใกล้เข้าไปทุกที หมดอยากก็นิพพาน
รูป : จะพูดเสียตรง ๆ ก็หมดเรื่อง ทำไมต้องกล่าวเงื่อนงำให้เพื่อนวิงเวียนว่า "หากจะไปตะวันตก จงมุ่งตะวันออก" ทำไมก็ไม่รู้...
นาม : ปากยื่น ผึ่งหู ของโป้ยก่ายคือต้นเหตุของการทุศีล คือชอบทำปากยื่นและหูยาวคอยหาเหตุเพื่อปากจะได้กระดุบกระดิบอีก หุบปากเข้าไปในคอ รัดหูให้แน่น ศีลก็ดูเรียบร้อยขึ้นใช่ไหมครับ ?
โหงว : ชักเข้าทีแล้ว
รูป : ขืนซ่อนปากไว้ในคอ ใครมันจะทำได้ทั้งวัน แล้ววาจาชั่วที่พรูอยู่ข้างในจะซ่อนที่ไหนเล่า
โหงว : วจีสังขารของวาจาชั่วคือปีศาจหนูขนเหลืองพ่นไฟ คืออึ้งฮองไต้อ๋อง น้องชายของเอ็กอองไต้อ๋อง เราจะเล่าให้ฟังในบทต่อไป แต่ขอให้เจ้าจำภาษิตนี้ไว้ให้ดี
ปิดปากเสียบ้าง แล้วว่างสบาย"
**คัดจาก "เดินทางไกลกับไซอิ๋ว" โดย "เขมานันทะ" หน้า ๓๘ - ๔๐
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น