หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

(ตอนที่ ๘) บทที่ ๕ ปัญญาทำให้ได้วิริยบารมี

บทที่ ๕ ปัญญาทำให้ได้วิริยบารมี


อาจารย์และศิษย์ดุ่มเดินไปในป่าลึก ถึงที่โล่ง ลุถึงบึงใหญ่ชื่อเองเส้า(เหยี่ยวโศก) เขตภูเขาจั๋วบั่วซัว ทันใดนั้น มังกรร้ายเง็กเล้งซัมไทจื้อ ผู้ต้องโทษจากสวรรค์ ได้โผล่พรวดขึ้นมา อ้าปากกลืนม้าหลวงลงไปในท้อง เห้งเจียกระชากตะบองยู่อี่เข้ารบกันโกลาหล เง็กเล้งเห็นท่าจะเสียทีก็ดำลงกบดานในก้นบึง 

เห้งเจียมิรู้จะทำประการใด ด้วยตนเชี่ยวชาญเฉพาะบนบก ไม่ถนัดในน้ำ จึงต้องเหาะไปนิมนต์พระกวนอิมโพธิสัตว์พร้อมทั้งเทพยดามาช่วย กวนอิมได้ร้องบอกให้รู้ว่า บุคคลที่เง็กเล้งรอ คือพระถังซัมจั๋งที่จะไปอาราธนาพระไตรปิฎกนั้น บัดนี้ก็คือคนที่ตนได้กินม้าเสียนั่นเอง เง็กเล้งทราบความแล้วก็ขึ้นจากก้นบึง มาทำความเคารพพระถัง และไหว้เห้งเจีย ฝ่ายกวนอิมก็ร่ายมนต์แปลงร่างของเง็กเล้งให้กลับเป็นม้าขาว เพื่อแทนม้าหลวงที่ถูกกลืนกินไป เมื่อกวนอิมและปวงเทพยดากลับไปสำนักตนแล้ว เห้งเจียก็จูงม้าขาวนำหน้าพระถังข้ามบึงเองเส้าด้วยเรือของตาเฒ่าผู้หนึ่ง









นาม : พอก่อนครับขอให้อาจารย์ช่วยเฉลยทีก่อน

รูป : โธ่ เรื่องกำลังสนุก มาขัดคอทำไมก็ไม่รู้

โหงว : เอาละ ไม่ต้องทะเลาะกัน เราจะเฉลยให้ฟัง ชีวิตช่วงนี้ได้ลุถึง "บึงแห่งความท้อถอยใจ"

นาม : มิน่าเล่าถึงให้ชื่อว่า "เหยี่ยวโศก" แม้โผขึ้นไปได้ในอากาศ ทีท้อถอยก็คอตกปีกเปลี้ยละเหี่ยโหย

โหงว : ตีปีกชูคอในทางธรรม เที่ยวอวดโอ่ด้วยแรงแห่งวิริยะของศรัทธา(ม้าหลวง)อยู่พักหนึ่ง ในที่สุดม้าก็ถูกกลืน ความท้อถอยใจก็ประดังเข้ามา

รูป : เพราะบึงนั้นกว้างมากนะครับ อาจารย์ทำไมไม่แต่งให้ม้าพาพระถังเหาะข้ามไปเลยละครับ ?

นาม : ทำไมให้เง็กเล้งซัมไทจื้อ ขึ้นมากินม้าหลวง แล้วอยู่ในบึงแห่งความท้อถอยเล่าครับ ?

โหงว : วิริยะของศรัทธาหมดเขตเพียงริมบึงนั้น ต่อจากนั้นชีวิตจำเป็นต้องพึ่งวิริยะที่เกิดจากปัญญาเข้าปราบปรามปีศาจที่กบดานอยู่ในบึง

รูป : ก็มังกรเง็กเล้งกบดานอยู่ และเห้งเจียไม่ได้ฆ่านี่ครับ

โหงว : ในช่วงที่ชีวิตเป็นบึงแห่งความท้อแท้นั้น วิริยะได้กบดานอยู่ ต้องใช้โพธิสัตว์ปัญญาปลุกให้มันขึ้นมาชนะความท้อถอยได้ นั่นคือวิริยบารมีเกิดแล้ว 

นาม : นั่นเป็นคติของมหายานนี่

โหงว : เอาเถอะน่า เฉลยแบบเถรวาทก็ได้ว่า แม้ไม่ไปตามกวนอิมมา เห้งเจียกับเง็กเล้งก็รู้จักกัจนได้ เพราะเง็กเล้งกำลังรออยู่แล้ว

นาม : ทำไมเห้งเจียไม่ถนัดทางน้ำ ?

โหงว : เห้งเจียคือตัวปัญญาที่ยังหยาบเถื่อนอยู่ ยังขาดศีล ซึ่งจะพบในบทถัดไป ซึ่งทั้งสามจะได้ช่วยกันปราบปีศาจในน้ำ คือ กิเลสประเภทกบดาน ตอนนี้สรุปว่า เมตตาของโพธิสัตว์นั้นทำให้วิริยะตื่นขึ้น

นาม : แล้วคณะไปไซทีข้ามบึงแห่งความ "ท้อถอย" ด้วยเรือของตาเฒ่า หมายความว่าอย่างไร ?

รูป : โธ่ ... คุณ ตาเฒ่าไม่มีชื่อจะมีความหมายอะไร นอกจากว่าอาจารย์แต่งส่งเดชให้พระถังข้ามบึงเท่านั้นเอง

โหงว : ตาเฒ่าคือ "โบราณธรรม " โบราณวิธีที่ท่านผู้รู้ได้ผ่านบึงแห่งความท้อถอยของชีวิตไปได้

รูป : โอย ... ผมชักวิงเวียนเข้าทุกทีแล้ว จะไปตีความในด้านในทำไมกันนักหนาเชียว อ่าน-ฟังให้สนุก ๆ ก็พอแล้ว

นาม : ไซอิ๋ว ของอาจารย์เป็นวรรณกรรมชิ้นเดียวของโลกที่เป็นพยานในการมองด้านใน ทุกสิ่งอยู่ข้างใน ใช่ใหมครับ ?

โหงว : อย่ายอเราเลิศลอยเกินไปนัก แท้จริงเราได้เค้าวิธีมาจาก รามายณะ

นาม : อะไรกัน... รามายณะก็เป็นวรรณกรรมด้านในหรือครับ ?

โหงว : ใช่ เอาเถิดเจ้าจะรู้เอง เจ้าอย่าเสียเวลาออกเรื่องเลย ฟังให้ดี เราจะเล่าตอนต่อไป...





**แม่เฒ่า - พ่อเฒ่า หรือ คนชรา = โบราณภาษิตหรือ เรื่องที่เล่า ๆ สืบต่อกันมา

** ขอบคุณภาพการ์ตูนไซอิ๋วจากเว็บ http://www.mindcyber.com/ ค่ะ 

**คัดจาก "เดินทางไกลกับไซอิ๋ว" โดย "เขมานันทะ" หน้า ๑๙ - ๒๒ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น