หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

(ตอนที่ ๒๑) บทที่ ๑๘ อรตินิวรณ์

บทที่ ๑๘
อรตินิวรณ์


พระถังและสานุศิษย์เดินมาถึงภูเขาใหญ่ เห็นกำแพงเมืองอยู่ข้างหน้า ก็ชวนกันเดินตรงไป และคืนนั้น ได้ขอพักค้างที่พระอารามหลวงชื่อ โป๊ลิ้มยี่ เจ้าอาวาสถือตน ไม่ยินดีต้อนรับพระพเนจร จนเห้งเจียต้องแผลงฤทธิ์ข่มขู่ให้ต้อนรับพระถัง

กล่าวถึงเหตุการณ์เมืองโอเกยก๊ก เมื่อ ๕ ปีก่อนฝนฟ้าแล้งจัด จนประชาชนระส่ำระสาย ฤาษีช่วนจินเต้าหยิน ได้ทำพิธีเรียกฝนให้ตกลงมาห่าใหญ่ จึงเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าโอเกยก๊ก ครั้นได้โอกาส ช่วนจินเต้าหยิน ก็ลอบปลงพระชนม์พระราชาเสีย โดยผลักลงบ่อแปดเหลี่ยม เอาแท่นหินปิดไว้ แล้วเกลี่ยทรายกลบ ปลูกต้นกล้วยไม้ไว้ข้างบน แล้วช่วนจินก็แปลงกายเป็นพระเจ้าโอเกยก๊ก มิมีใครรู้ ไทจื้อรัชทายาทก็ไม่ได้เข้าเฝ้าเป็นเวลา ๓ ปีแล้ว

ฝ่ายซากพระศพของพระราชานั้น ได้จมลงถึงบาดาล พญาฮั้ยเล่งอ๋อง มิตรของโป้ยก่ายได้เก็บรักษาไว้มิให้เน่าเปื่อย 

คืนที่พระถังกับศิษย์พักค้างแรมที่อารามหลวงโป๊ลิ้มยี่นั้นเอง พระถังนั่งสวดมนต์อยู่จนดึก ศิษย์หลับหมดแล้ว วิญญาณของพระเจ้าโอเกยก๊กก็มาหา ร้องเรียกชื่อพระถังเบา ๆ พระถังก็กำลังเคลิ้ม ในหูได้ยินว่า ขอให้ส่งสานุศิษย์ไปช่วยให้พ้นจากบาดาล แล้ววิญญาณนั้นก็ทิ้งหยกตราประจำพระองค์ หมายสำคัญไว้ที่ประตู เพื่อให้เห้งเจียนำไปแสดงกับไทจื้อและฮองเฮา 

ตกดึกพระถังปลุกเห้งเจียแล้วเล่าเรื่องให้ฟัง รุ่งเช้าเห้งเจียเข้าไปพบไทจื้อ เล่าความจริงให้ฟังว่าพระราชาองค์ปัจจุบันเป็นองค์ปลอม ไทจื้อไม่เชื่อ เห้งเจียจึงแสดงหยกขาวให้ดู ทั้งวางอุบายให้ไทจื้อไปสอบถามฮองเฮาพระมารดาว่ารสสัมผัสของพระราชาเปลี่ยนแปลงไปบ้างหรือไม่ 

ฝ่ายไทจื้อจึงไปกราบทูลถามพระมารดาถึงความนัยนั้น ฮองเฮาก็เล่าความจริงว่า ๓ ปีมาแล้ว ที่รสสัมผัสของพระเจ้าโอเกยก๊กจืดชืด ไทจื้อจึงเชื่อว่าเป็นช่วนจินปลอมตัวมาจริง ๆ ก็นำความนั้นมาบอกเห้งเจีย

เห้งเจียกับโป้ยก่ายก็ชวนกันไปที่บ่อแปดเหลี่ยม ด้วยฤทธิ์ตะบองของเห้งเจียโป้ยก่ายก็ลงไปในบ่อที่มีน้ำ ดำลงไปถึงบาดาล จนพบพญาฮั้ยเล่งอ๋องสหายเก่า แล้วแบกซากศพของพระเจ้าโอเกยก๊กขึ้นมา เห้งเจียเหาะนำหน้าศพมาที่อาราม แล้วตีลังกาขึ้นสู่พรหมโลกไปหาพรหมท้ายเสียงเล่ากุนขอยาชุบชีวิต เมื่อได้แล้วกผ็ลงมาชุบชีวิตพระราชาให้ฟื้นขึ้นมา แล้วถอดเครื่องทรงกษัตริย์ออกฝากไว้ในอาราม ให้นุ่งขาวห่มขาวแทน 

รุ่งเช้า ทั้งหมดก็เข้าไปในพระราชวัง เห้งเจียเข้าต่อสู้กับช่วนจินเต้าหยิน เต้าหยินจึงแปลงร่างเป็นพระถังอีกองค์หนึ่ง เห้งเจียแยกไม่ออกจึงร้องบอกให้พระถังร่ายคาถาบีบขมับ หากองค์ไหนร่ายคาถาแล้วเห้งเจียปวดหัว องค์นั้นคือองค์จริง เห้งเจียจึงจับช่วนจินได้ เงือดเงื้อตะบองจะฆ่า แต่บุ้นซู้โพธิสัตว์เหาะมาห้ามไว้ทัน แล้วเฉลยว่า ที่แท้ช่วนจินเต้าหยินคือ สิงห์พาหนะของพระองค์ พระองค์แกล้งใช้มาเพื่อลงโทษพระเจ้าโอเกยก๊ก เมื่อเห้งเจียมาแก้ไขแล้วก็เป็นอันว่าสิ้นเวรต่อกัน


Photobucket




รูป : เรื่องตอนนี้เหมือนในเปาบุ้นจิ้น

โหงว : ฮื่อ... เปาบุ้นจิ้นลอกของเราไปซี

นาม : เห้งเจียแผลงฤทธิ์ บังคับให้สมภารวัดโป๊ลิ่มยี่มาต้อนรับ หมายความว่าอย่างไร ? 

โหงว : ปัญญาพยายามสถาปนาจิตครั้งที่ ๓ 

นาม : ช่วนจิน ?

รูป : ก็เต้าหยิน อาจารย์แกล้งด่านักพรตเต๋าล่ะ

โหงว : อย่าสู่รู้น่า ช่วนจินเป็นสหายของงึ้นกั๊ก ชอบไปมาหาสู่กัน...ลองเดาดู...

รูป : งึ้นกั๊กคือพยาบาท ช่วนจินก็...ก็...

นาม : ? จนครับ

โหงว : อรติ - ความไม่ชอบ ไม่รัก ไม่พอใจ จนอาจจะล้ำไปถึงความเกลียด ซึ่งเป็นสหาย ชอบไปมาหาสู่กับพยาบาท พอเกลียด ไม่พอใจก็แค้นใจ พอแค้นใจก็เกลียด

นาม : ทำไมให้เป็นปีศาจเต้าหยิน ?

รูป :อรตินั้น ดู ๆ คล้าย ๆ อุเบกขา คือไม่ชอบ ไม่รัก แต่ว่ามันเฉยแบบไม่ชอบ ซึ่งยังเป้นนิวรณ์ไม่ใช่อุเบกขา จึงว่าเป็นปีศาจเต้าหยินปลอมตัวมา...

นาม :พระเจ้าโอเกยก๊ก ?

โหงว :บอกแล้วว่า พระราชาทุกเมืองหมายถึงศรัทธา ตั้งแต่พระเจ้าไทจง พระเจ้าเชียงโป๊ก๊ก ตลอดจนถึงไซที

นาม :ผมเข้าใจแล้ว นิวรณ์ ๕ ถอยกำลัง ชีวิตจึงดูคล้ายมีอุเบกขาอยู่ระยะหนึ่งแล้วจางไป เพราะอุเบกขานั้นค่อย ๆ กลายเป็นอรติ นั่นคือนิวรณ์นี้มาเป็นราชาแทน

รูป :ศรัทธา จึงดิ่งลงบาดาล แต่ไม่ตายหมดสิ้น เพราะแนวโน้มของศีลช่วยไว้ 

นาม : นั่นคือ ฮั้ยเล่งอ๋อง สหายของโป้ยก่ายรักษาซากศรัทธาไว้

รูป : เอ๋...บ่อ ๘ เหลี่ยม ?

นาม : โธ่ เจ้าเซ่อ มิจฉัตตะ ตรงข้ามกับอริยมรรคมีองค์ ๘ ที่ดุจบ่อลึกถึงบาดาล

รูป : มีอะไรบ้าง ?

นาม : มิจฉาทิฏฐิ มิจฉาสังกัปโป มิจฉาวาจา มิจฉากัมมันโต มิจฉาอาชีโว มิจฉาวายาโม มิจฉาสติ มิจฉาสมาธิ อ้าว...ทีนี้ยาของพรหมท้ายเสียงเล่า ?

โหงว : สุขที่ประณีต ทำให้ซากของศรัทธาในชีวิตค่อยฟื้นขึ้น

รูป : (หัวร่อ) อาจารย์ ทำไมฮองเฮามเหสีถึงบ่นว่ารสสัมผัสของพระเจ้าโอเกยก๊กจืดชืดมาสามปีแล้ว ผมว่าพระราชาแก่ลงใช่ไหม ?

โหงว : อรติที่ดูคล้าย ๆ อุเบกขานั้นมันไม่มีรสชาติเหมือนความสุขที่มาจากศรัทธาเลย

รูป : ไปได้ทั้งน้ำขุ่น ๆ แหละ...

นาม : แล้วช่วนจินปลอมเป็นพระถังเล่า ?

โหงว : อรติกับขันติคล้ายกันมาก (ไม่ชอบ ไม่รัก กับทน)

รูป : องค์ไหนร่ายคาถาบีบขมับเห้งเจียได้ องค์นั้นใช่ล่ะคือพระถังองค์จริง

นาม : ขันติอดทนด้วยความรู้ อดทนเพื่อให้ปัญญาแห่งไตรลักษณ์ นี่คือพระถังแท้ ส่วนอรติไม่ชอบ แต่ต้องทน หากมิได้เพ่งอยู่กับไตรลักษณ์ จึงเป็นขันติเก๊

โหงว : ไม่เลว ขันติไหนมีการเห็นแจ้งต่อไตรลักษณ์ นั่นคือองค์พระถังแท้

รูป : ช่วนจิน คือสิงห์ของบุ้นซู้ มาใช้เวรพระราชา...?

โหงว : บุ้นซู้คือ มัญชูศรีโพธิสัตว์ ตัวแทนของปัญญา อรติแปลงมาเป็นอุเบกขา เพื่อให้ปัญญาเห็นแจ้ง เพื่อว่าทางของโพธิสัตว์จะได้ไพบูลย์

นาม : สรุปว่า จากเชียงโป้ก๊ก ละนิวรณ์ ๕ อรติและอกุศลธรรมที่อยู่ในระดับนิวรณ์ได้ ศรัทธาที่เหลือแต่ซากก็จะฟื้นขึ้นมาจากตาย นี่คือ การสถาปนาจิตอีกครั้งหนึ่ง 

รูป : อาจารย์เล่าเรื่องปีศาจตัวดุ ๆ หน่อยน่า 

โหงว : เอาล่ะ ต่อแต่นี้ปีศาจตัวดุที่สุด ให้แกฟังให้ดี โธ่...มันขี่คอเจ้าทั้งสองอยู่ทีเดียวล่ะเจ้าเอ๋ย...

ดูให้ดี ผีหรือเทพ............เสพคบเจ้าอยู่เช้าค่ำ
พอคิดผิดจิตมืดงำ.........ถ้ำของผีอยู่ที่ใจ
พอคิดดี ผีก็ดับ.............กลับเป็นเทพ เสพย์สุขไฉน
สวรรค์บันเทิง เหลิงฤทัย...คิดผิดผุด มุดลงนรก



นาม : ทั้งนรก แลสวรรค์.....มันระทึก ลึกในอก

โหงว : ต่อแต่นี้ ผีทารก....

รูป : เชิญโกหกให้ ชื่นใจเอย...

โหงว : ?

(จบบทที่ ๑๘ โปรดติดตามตอนต่อไป...)






** คัดจาก "เดินทางไกลกับไซอิ๋ว" โดย "เขมานันทะ" หน้า ๘๑ - ๘๗ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น