อรตินิวรณ์
พระถังและสานุศิษย์เดินมาถึงภูเขาใหญ่ เห็นกำแพงเมืองอยู่ข้างหน้า ก็ชวนกันเดินตรงไป และคืนนั้น ได้ขอพักค้างที่พระอารามหลวงชื่อ โป๊ลิ้มยี่ เจ้าอาวาสถือตน ไม่ยินดีต้อนรับพระพเนจร จนเห้งเจียต้องแผลงฤทธิ์ข่มขู่ให้ต้อนรับพระถัง
กล่าวถึงเหตุการณ์เมืองโอเกยก๊ก เมื่อ ๕ ปีก่อนฝนฟ้าแล้งจัด จนประชาชนระส่ำระสาย ฤาษีช่วนจินเต้าหยิน ได้ทำพิธีเรียกฝนให้ตกลงมาห่าใหญ่ จึงเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าโอเกยก๊ก ครั้นได้โอกาส ช่วนจินเต้าหยิน ก็ลอบปลงพระชนม์พระราชาเสีย โดยผลักลงบ่อแปดเหลี่ยม เอาแท่นหินปิดไว้ แล้วเกลี่ยทรายกลบ ปลูกต้นกล้วยไม้ไว้ข้างบน แล้วช่วนจินก็แปลงกายเป็นพระเจ้าโอเกยก๊ก มิมีใครรู้ ไทจื้อรัชทายาทก็ไม่ได้เข้าเฝ้าเป็นเวลา ๓ ปีแล้ว
ฝ่ายซากพระศพของพระราชานั้น ได้จมลงถึงบาดาล พญาฮั้ยเล่งอ๋อง มิตรของโป้ยก่ายได้เก็บรักษาไว้มิให้เน่าเปื่อย
คืนที่พระถังกับศิษย์พักค้างแรมที่อารามหลวงโป๊ลิ้มยี่นั้นเอง พระถังนั่งสวดมนต์อยู่จนดึก ศิษย์หลับหมดแล้ว วิญญาณของพระเจ้าโอเกยก๊กก็มาหา ร้องเรียกชื่อพระถังเบา ๆ พระถังก็กำลังเคลิ้ม ในหูได้ยินว่า ขอให้ส่งสานุศิษย์ไปช่วยให้พ้นจากบาดาล แล้ววิญญาณนั้นก็ทิ้งหยกตราประจำพระองค์ หมายสำคัญไว้ที่ประตู เพื่อให้เห้งเจียนำไปแสดงกับไทจื้อและฮองเฮา
ตกดึกพระถังปลุกเห้งเจียแล้วเล่าเรื่องให้ฟัง รุ่งเช้าเห้งเจียเข้าไปพบไทจื้อ เล่าความจริงให้ฟังว่าพระราชาองค์ปัจจุบันเป็นองค์ปลอม ไทจื้อไม่เชื่อ เห้งเจียจึงแสดงหยกขาวให้ดู ทั้งวางอุบายให้ไทจื้อไปสอบถามฮองเฮาพระมารดาว่ารสสัมผัสของพระราชาเปลี่ยนแปลงไปบ้างหรือไม่
ฝ่ายไทจื้อจึงไปกราบทูลถามพระมารดาถึงความนัยนั้น ฮองเฮาก็เล่าความจริงว่า ๓ ปีมาแล้ว ที่รสสัมผัสของพระเจ้าโอเกยก๊กจืดชืด ไทจื้อจึงเชื่อว่าเป็นช่วนจินปลอมตัวมาจริง ๆ ก็นำความนั้นมาบอกเห้งเจีย
เห้งเจียกับโป้ยก่ายก็ชวนกันไปที่บ่อแปดเหลี่ยม ด้วยฤทธิ์ตะบองของเห้งเจียโป้ยก่ายก็ลงไปในบ่อที่มีน้ำ ดำลงไปถึงบาดาล จนพบพญาฮั้ยเล่งอ๋องสหายเก่า แล้วแบกซากศพของพระเจ้าโอเกยก๊กขึ้นมา เห้งเจียเหาะนำหน้าศพมาที่อาราม แล้วตีลังกาขึ้นสู่พรหมโลกไปหาพรหมท้ายเสียงเล่ากุนขอยาชุบชีวิต เมื่อได้แล้วกผ็ลงมาชุบชีวิตพระราชาให้ฟื้นขึ้นมา แล้วถอดเครื่องทรงกษัตริย์ออกฝากไว้ในอาราม ให้นุ่งขาวห่มขาวแทน
รุ่งเช้า ทั้งหมดก็เข้าไปในพระราชวัง เห้งเจียเข้าต่อสู้กับช่วนจินเต้าหยิน เต้าหยินจึงแปลงร่างเป็นพระถังอีกองค์หนึ่ง เห้งเจียแยกไม่ออกจึงร้องบอกให้พระถังร่ายคาถาบีบขมับ หากองค์ไหนร่ายคาถาแล้วเห้งเจียปวดหัว องค์นั้นคือองค์จริง เห้งเจียจึงจับช่วนจินได้ เงือดเงื้อตะบองจะฆ่า แต่บุ้นซู้โพธิสัตว์เหาะมาห้ามไว้ทัน แล้วเฉลยว่า ที่แท้ช่วนจินเต้าหยินคือ สิงห์พาหนะของพระองค์ พระองค์แกล้งใช้มาเพื่อลงโทษพระเจ้าโอเกยก๊ก เมื่อเห้งเจียมาแก้ไขแล้วก็เป็นอันว่าสิ้นเวรต่อกัน
รูป : เรื่องตอนนี้เหมือนในเปาบุ้นจิ้น
โหงว : ฮื่อ... เปาบุ้นจิ้นลอกของเราไปซี
นาม : เห้งเจียแผลงฤทธิ์ บังคับให้สมภารวัดโป๊ลิ่มยี่มาต้อนรับ หมายความว่าอย่างไร ?
โหงว : ปัญญาพยายามสถาปนาจิตครั้งที่ ๓
นาม : ช่วนจิน ?
รูป : ก็เต้าหยิน อาจารย์แกล้งด่านักพรตเต๋าล่ะ
โหงว : อย่าสู่รู้น่า ช่วนจินเป็นสหายของงึ้นกั๊ก ชอบไปมาหาสู่กัน...ลองเดาดู...
รูป : งึ้นกั๊กคือพยาบาท ช่วนจินก็...ก็...
นาม : ? จนครับ
โหงว : อรติ - ความไม่ชอบ ไม่รัก ไม่พอใจ จนอาจจะล้ำไปถึงความเกลียด ซึ่งเป็นสหาย ชอบไปมาหาสู่กับพยาบาท พอเกลียด ไม่พอใจก็แค้นใจ พอแค้นใจก็เกลียด
นาม : ทำไมให้เป็นปีศาจเต้าหยิน ?
รูป :อรตินั้น ดู ๆ คล้าย ๆ อุเบกขา คือไม่ชอบ ไม่รัก แต่ว่ามันเฉยแบบไม่ชอบ ซึ่งยังเป้นนิวรณ์ไม่ใช่อุเบกขา จึงว่าเป็นปีศาจเต้าหยินปลอมตัวมา...
นาม :พระเจ้าโอเกยก๊ก ?
โหงว :บอกแล้วว่า พระราชาทุกเมืองหมายถึงศรัทธา ตั้งแต่พระเจ้าไทจง พระเจ้าเชียงโป๊ก๊ก ตลอดจนถึงไซที
นาม :ผมเข้าใจแล้ว นิวรณ์ ๕ ถอยกำลัง ชีวิตจึงดูคล้ายมีอุเบกขาอยู่ระยะหนึ่งแล้วจางไป เพราะอุเบกขานั้นค่อย ๆ กลายเป็นอรติ นั่นคือนิวรณ์นี้มาเป็นราชาแทน
รูป :ศรัทธา จึงดิ่งลงบาดาล แต่ไม่ตายหมดสิ้น เพราะแนวโน้มของศีลช่วยไว้
นาม : นั่นคือ ฮั้ยเล่งอ๋อง สหายของโป้ยก่ายรักษาซากศรัทธาไว้
รูป : เอ๋...บ่อ ๘ เหลี่ยม ?
นาม : โธ่ เจ้าเซ่อ มิจฉัตตะ ตรงข้ามกับอริยมรรคมีองค์ ๘ ที่ดุจบ่อลึกถึงบาดาล
รูป : มีอะไรบ้าง ?
นาม : มิจฉาทิฏฐิ มิจฉาสังกัปโป มิจฉาวาจา มิจฉากัมมันโต มิจฉาอาชีโว มิจฉาวายาโม มิจฉาสติ มิจฉาสมาธิ อ้าว...ทีนี้ยาของพรหมท้ายเสียงเล่า ?
โหงว : สุขที่ประณีต ทำให้ซากของศรัทธาในชีวิตค่อยฟื้นขึ้น
รูป : (หัวร่อ) อาจารย์ ทำไมฮองเฮามเหสีถึงบ่นว่ารสสัมผัสของพระเจ้าโอเกยก๊กจืดชืดมาสามปีแล้ว ผมว่าพระราชาแก่ลงใช่ไหม ?
โหงว : อรติที่ดูคล้าย ๆ อุเบกขานั้นมันไม่มีรสชาติเหมือนความสุขที่มาจากศรัทธาเลย
รูป : ไปได้ทั้งน้ำขุ่น ๆ แหละ...
นาม : แล้วช่วนจินปลอมเป็นพระถังเล่า ?
โหงว : อรติกับขันติคล้ายกันมาก (ไม่ชอบ ไม่รัก กับทน)
รูป : องค์ไหนร่ายคาถาบีบขมับเห้งเจียได้ องค์นั้นใช่ล่ะคือพระถังองค์จริง
นาม : ขันติอดทนด้วยความรู้ อดทนเพื่อให้ปัญญาแห่งไตรลักษณ์ นี่คือพระถังแท้ ส่วนอรติไม่ชอบ แต่ต้องทน หากมิได้เพ่งอยู่กับไตรลักษณ์ จึงเป็นขันติเก๊
โหงว : ไม่เลว ขันติไหนมีการเห็นแจ้งต่อไตรลักษณ์ นั่นคือองค์พระถังแท้
รูป : ช่วนจิน คือสิงห์ของบุ้นซู้ มาใช้เวรพระราชา...?
โหงว : บุ้นซู้คือ มัญชูศรีโพธิสัตว์ ตัวแทนของปัญญา อรติแปลงมาเป็นอุเบกขา เพื่อให้ปัญญาเห็นแจ้ง เพื่อว่าทางของโพธิสัตว์จะได้ไพบูลย์
นาม : สรุปว่า จากเชียงโป้ก๊ก ละนิวรณ์ ๕ อรติและอกุศลธรรมที่อยู่ในระดับนิวรณ์ได้ ศรัทธาที่เหลือแต่ซากก็จะฟื้นขึ้นมาจากตาย นี่คือ การสถาปนาจิตอีกครั้งหนึ่ง
รูป : อาจารย์เล่าเรื่องปีศาจตัวดุ ๆ หน่อยน่า
โหงว : เอาล่ะ ต่อแต่นี้ปีศาจตัวดุที่สุด ให้แกฟังให้ดี โธ่...มันขี่คอเจ้าทั้งสองอยู่ทีเดียวล่ะเจ้าเอ๋ย...
ดูให้ดี ผีหรือเทพ............เสพคบเจ้าอยู่เช้าค่ำ
พอคิดผิดจิตมืดงำ.........ถ้ำของผีอยู่ที่ใจ
พอคิดดี ผีก็ดับ.............กลับเป็นเทพ เสพย์สุขไฉน
สวรรค์บันเทิง เหลิงฤทัย...คิดผิดผุด มุดลงนรก
นาม : ทั้งนรก แลสวรรค์.....มันระทึก ลึกในอก
โหงว : ต่อแต่นี้ ผีทารก....
รูป : เชิญโกหกให้ ชื่นใจเอย...
โหงว : ?
** คัดจาก "เดินทางไกลกับไซอิ๋ว" โดย "เขมานันทะ" หน้า ๘๑ - ๘๗
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น