หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

(ตอนที่ ๑๔) บทที่ ๑๑ การทดใช้มิจฉาวาจา

บทที่ ๑๑ การทดใช้มิจฉาวาจา


เดินทางมาครึ่งวัน ศิษย์และอาจารย์ก็บรรลุถึงภูเขายอดสูงเทียมเมฆ ลมเริ่มแปรปรวนพัดอู้ ทันใดนั้น เสือร้ายตัวหนึ่งกระโดดออกมาขวางหน้า เห้งเจียและโป๊ยก่ายรุมกันรบ เสือสู้ไม่ได้ก็ถอดคราบเสือทิ้ง กลายร่างเป็นคน กระชากมีดสั้น ๒ เล่มออกมาเป็นอาวุธ เข้าสู้รบ ล่อให้เห้งเจียโป้ยก่ายเผลอ แล้วบันดาลเป็นลมพัดหอบเอาพระถังซัมขั๋งและม้าขาวไปให้แก่ปีศาจอึ้งฮองไต้อ๋อง น้องชายของปีศาจเอ็กฮองไต้อ๋อง (ที่ไปเฝ้าประตูหลังของสำนักน่ำไฮ้ของกวนอิมโพธิสัตว์ ) แล้วเซียนฮอง ทหารเอกของปีศาจก็ออกมาสู้รบกับเห้งเจียโป้ยก่าย เห้งเจียจึงรบล่อมาให้โป้ยก่ายฆ่าเสียด้วยคราดวิเศษ

เห้งเจียถอนขนออก แล้วเป่ามนต์เนรมิตเป็นลิงบริวาร เข้าล้อมอึ้งฮองไต้อ๋อง ปีศาจหนูขนเหลืองปากพ่นลมพิษ เห้งเจียเสียทีถูกลมปากของปีศาจปลิวไปตามลม ลมพิษถูกตาทั้งสองเจ็บปวดทรมาน หากว่ามิใช่เห้งเจียแล้วเห็นทีตาจะบอด 

เห้งเจียและโป้ยก่ายเที่ยวหาหมอรักษาตา เทพารักษ์ผู้ตามคุ้มครองได้หยอดยาตาให้ เมื่อหายแล้วตากลับสว่างกว่าเดิมตั้งร้อยเท่า พันเท่า เห้งเจียรู้เคล็ดลับในการปราบปีศาจ หนูขนเหลืองปากพ่นลมพิษจากตาเฒ่าผู้ที่เทพจำแลงมา จึงเหาะไปนิมนต์เล่งเกี๊ยดโพธิสัตว์ผู้ชอบเทศนายิ่งนัก เล่งเกี๊ยดกับเห้งเจียก็เหาะกลับมาที่ถ้ำปีศาจ เห้งเจียร้องท้าให้ปีศาจออกจากถ้ำแล้วรบล่อมาหาเล่งเกี๊ยด เล่งเกี๊ยดมียาบำบัดลมเม็ดหนึ่งกับไม้ตะบองมังกรทอง จึงได้ขว้างไม้ตะบองไปเป็นมังกรทอง ๘ เล็บ ตรงเข้ารัดขยุ้มปีศาจไว้ในอุ้งเล็บทั้ง ๘ เห้งเจียเงื้อตะบองจะฆ่าเสีย เล่งเกี๊ยดโพธิสัตว์ก็ร้องห้ามขอชีวิตปีศาจไว้ว่าจะจับตัวไปถวายพระเซ็กเกียมองนีฮุดโจ๊ว 

เล่งเกี๊ยดพาปีศาจไปแล้ว เห้งเจียกับโป้ยก่ายก็ช่วยกันทลายถ้ำ และฆ่าสมุนปีศาจเสียสิ้น แก้มัดพระถังออกมาได้แล้วก็ออกเดินทางต่อไป





รูป : เล่าต่อ เล่าต่อ

นาม : อ้ายบ้านี่ ช่างไม่สนใจธรรมะเอาเสียเลย จะมัวโง่ดักดานอยู่แต่ฟังนิทานเท่านั้น

โหงว : อ้าว...เจ้านี่ ปีศาจอึ้งฮองไต้อ๋องจับพระถังของแกเข้าถ้ำผีเสียแล้วหรือ อีกหน่อยตาเห้งเจียของเจ้าจะบอด

นาม : โธ่ ๆ ผมเผลอไปจริง ๆ ครับ (ไม่น่าด่ามันเลย อายอาจารย์จริง ๆ )

รูป : จะเฉลยก็รีบเฉลย เสียเวลาเปล่า ๆ 

โหงว : อึ้งฮองไต้อ๋องคือวจีสังขารที่ผลักดันออกมาเป็นมิจฉาวาจา ที่อุปมาด้วยหนูขนเหลือง ปากพ่นลมพิษพ่นไฟ

นาม : เอ ทำไมต้องขนเหลืองด้วยละครับ

โหงว : นุ่งห่มเหลือง แล้วปากยังพ่นลมพิษมิจฉาวาจาอยู่นั่นละซี

รูป : ลมพิษถูกตาเพื่อนจนตาบอด

โหงว : เจ้านี่ เผลอออกจากเรื่องข้างในไปอยู่ด้านนอก มีคนขึ้นอีกแล้ว ข้าบอกว่าลมพิษที่พ่น คือมิจฉาวาจานั้น ทำให้ตาปัญญาของตัวเองแหละบอด

นาม : เข้าตำรายิ่งพูดพล่ามยิ่งไม่รู้ ยิ่งพูดพ่นวิจารณ์ดี - ชั่ว ยิ่งมืดบอด

โหงว : ระวังนะเจ้า

นาม : ทหารเอกเซียนฮองของมันที่มีมีดสั้นสองเล่มส่ะครับ

โหงว : ทหารเอกแม่ทัพหน้า (เซียนฮอง)ของวจีสังขารที่เป็นมิจฉาวาจา คือวิตก - วิจาร ที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นแล้ว ก็ได้พ่นลมพิษออกมาแน่ นี่ไง มีดสั้นสองเล่ม ชีวิตช่วงนี้ดุจ "ถูกปีศาจปากพ่นลมพิษ"จับขังไว้ในถ้ำ ปัญญาก็ตามืดแต่แล้วตาก็หายเพราะโพธิปัญญานั้น มันมีอำนาจทิพย์ที่รักษาตัวมันเองได้ เมื่อรู้ความจริงเรื่องวจีสังขาร ตาจึงสว่างขึ้นหลายพันเท่า

นาม : เล่งเกี๊ยดโพธิสัตว์เล่า ? 

โหงว : มิจฉาวาจาเป็นเรี่ยวแรงไหลบ่าของวจีสังขาร จะปราบมันตรง ๆ ได้ยาก จึงต้องทดใช้มันไปในทางกุศล คือการเริ่มสำรวมระวังตั้งสติ ระงับความพลุ่งพล่าน ปากดิ้นลิ้นรัวผลีผลามพูด ให้พูดแต่น้อย นี่คือยาเม็ดกำบังลม (ซึ่งไม่ได้ใช้ในตอนนี้) เล่งเกี๊ยดผู้โปรดปรานการเทศน์ ถูกนิมนต์มาปราบปีศาจก็หมายถึงทดใชมิจฉาวาจา (การพูดปด พูดหยาบ เพ้อเจ้อ ส่อเสียด) ที่อุปมาด้วยปากพ่นลมพิษ ให้เป็นการพูดแต่ธรรมะเสีย

นาม : ถ้าวจีสังขารนี้มีพิษโทษถึงทำให้ปัญญามืดก็เลิกพูดไปเสียมิสิ้นเรื่องไปหรือ ? 

โหงว : วจีสังขารจะตัดขาดไปได้อย่างไร นอกจากจะระงับ"กำบังลม"ไว้ก่อนแล้วทดใช้ให้วจีสังขารหลั่งไหลไปในทางพุทธธรรม

นาม : ธรรมะอะไรเล่าครับ เพราะธรรมะนี้กว้างและมากมาย อาจจะกลายเป็นพูดธรรมะด้วยวาจาเพ้อเจ้อเท่าเดิมอยู่ 

โหงว : เล่งเกี๊ยดขว้างไม้เท้ามังกรทอง กลายเป็นมังกร ๘ เล็บขยุ้มปีศาจไว้ในอุ้งมือ เจ้าตอบคำถามของเจ้าเองไม่ได้หรือ ?

นาม : เข้าใจแล้ว จงพูดแต่เพียง "อริยมรรคมีองค์ ๘ " เท่านั้น แล้วปีศาจมิจฉาวาจาจะอยู่ในอำนาจ

รูป : เห้งเจียจะฆ่า ไหงเล่งเกี๊ยดขอไว้พาไปเป็นทาสรับใช้พระเซ็กเกียมองนีฮุดโจ้ว (ศากยมุนีพุทโธ)

โหงว :ก็นั่นไงล่ะ ปัญญาสามัญคิดว่าฆ่าวาจา(ไม่พูด)เสียเลยจะได้สิ้นเรื่อง แต่วิธีของโพธิสัตวยานนั้นจงพูดเถิด แต่พูดถึงทาง(มรรค) และนั่นคือการเป็นทาสรับใช้พระพุทธเจ้า ในการเผยแผ่ธรรมะของพระองค์

นาม : ถ้ำปีศาจถูกเห้งเจียจุดไฟเผาฆ่าสมุนพินาศลง หมายถึงกิเลสเล็ก ๆ น้อย ๆ คำพูดที่เนื่องจากมิจฉาวาจาก็หายไปสิ้นเมื่อเจตนาพูดชั่วไม่มี

รูป : แหม...สนุกจริง ๆ ครับอาจารย์

โหงว : เป็นอันว่าบวชใจก่อนเพื่อน ด้วยการสวมห่วงไตรลักษณ์(อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา) เข้าในหัวของปัญญา บวชกายด้วยการบำเพ็ญประโยชน์ทางกายให้ผู้อื่น ด้วยเมตตาชนิดไม่หวังผลตอบแทน บวชวาจาด้วยด้วยการพูดถึงทางอันประเสริฐ เป็นการรับใช้พระพุทธเจ้า และทุกครั้งที่เกิดอุปสรรคทุกข์ทรมานในชีวิต ฟังภาวนาบทมนต์วิเศษ "ไม่มี ไม่มี ไม่มี" ของอาจารย์เซ็นโอเซ้าเซียนซือ ต่อจากนั้นขอให้ทุ่มชีวิตก้าวเดินไปสู่ที่สุด การผจญปีศาจร้ายคือกิเลสจะกลายเป็นความรู้ไปหมดสิ้น

นาม : โอ้โฮ วิเศษจริง

รูป : เล่าต่อ เล่าต่อ



**คัดจาก "เดินทางไกลกับไซอิ๋ว" โดย "เขมานันทะ" หน้า ๔๑ - ๔๖ 




(จบบทที่ ๑๑ โปรดติดตามตอนต่อไป...)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น