หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

(ตอนที่ ๔๒) บทที่ ๓๙ เมืองฆ่าพระ (เห็นผู้อื่นเป็นพระแล้วจะได้เป็นพระ)

บทที่ ๓๙ เมืองฆ่าพระ (เห็นผู้อื่นเป็นพระแล้วจะได้เป็นพระ)


พระถังและศิษย์จาริกมาท่ามกลางลมและฝน สองข้างทางต้นไม้ผลิดอกงดงามยิ่ง กวนอิมโพธิสัตว์เสด็จพร้อมกับเสียนไจ๊ท่งจื๊อ (อดีตปีศาจอั้งฮั้ยยี่) มาแจ้งเหตุสำคัญที่จะผ่านเข้าเมืองเบี๊ยดฮวยก๊ก (เมืองทำลายธรรมะ) ด้วยเหตุว่าพระราชาเมืองนั้นได้ตั้งสัจจาธิษฐานว่า จะฆ่าพระให้ครบหมื่นรูป ได้ฆ่าพระที่ไม่มีชื่อเสียงไปแล้ว ๙,๙๙๖ รูป ขาดอีก ๔ รูป

เมื่อเห้งเจียทราบดังนั้น ก็เดินนำหน้าพาคณะออกจากทางใหญ่ แวะพักข้างทาง ให้โป๊ยก่ายและซัวเจ๋งอยู่รักษาอาจารย์ ส่วนตัวเองแปลงเป็นแมลงเม่าบินเข้าไปในเมือง แล้วแปลงเป็นหนูเข้าไปคาบผ้าโพกศีรษะและเสื้อจากโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง แล้วรีบกลับมาหาพระถัง อาจารย์และศิษย์เอาผ้าโพกหัว ใส่เสื้อ แล้วก็กลายเป็นฆราวาส ทำทีเป็นพ่อค้าม้าสี่พี่น้อง เห้งเจียปลอบใจพระถังว่า "แม้เมืองนี้เป็นเมืองฆ่าพระก็จริง แต่พิจารณาดี ๆ แล้วจะเห็นรัศมีรุ่งเรือง"

พ่อค้าม้าปลอมสี่พี่น้อง จูงม้าขาวเข้าเมืองในตอนหัวค่ำ เพื่อใช้ความมืดพรางตา เข้าไปขอเช่าโรงพักแรมคนเดินทาง เห้งเจียเกรงว่าความจะแตกจึงบอกกับเจ้าของที่พักว่า พี่ชายคนโต(คือพระถัง)นั้นเป็นโรคแพ้แสงไฟ น้องที่สาม(โป้ยก่าย)นั้นเป็นโรคเหน็บชา น้องคนเล็ก(ซัวเจ๋ง) เป็นโรคกระษัยไตพิการ จึงขอนอนห้องพิเศษที่ไม่มีแสงเล็ดลอดเข้าไปได้ เจ้าของโรงเตี๊ยมจึงให้เข้านอนในตู้ใบใหญ่ทั้งสี่คน แล้วก็ลั่นกุญแจปิดเสียด้วย

ตกดึกมีโจรกลุ่มหนึ่งผ่านมา แอบได้ยินเสียงเห้งเจียคุยโวอยู่ในตู้ จึงเข้าปล้นโรงเตี๊ยมแล้วหามตู้ใบนั้นไป เห้งเจียก็กำหนดรู้อยู่ ทีแรกคิดว่าโจรจะหามตู้นั้นไปทางทิศที่จะไปไซที(ตะวันตก) แต่โจรเหล่านั้นกลับหามไปทางทิศตะวันออก (ไปทางทิศเมืองไต้ถัง) 

ในขณะนั้น ทหารหลวงซึ่งได้รับแจ้งเหตุโจรกรรมก็ตามมาทัน เข้าสู้รบแย่งชิงตู้ใบใหญ่ได้ และร้องกันขึ้นว่าจะนำไปถวายพระราชา ให้เป็นสมบัติหลวง พระถังได้ยินดังนั้นก็ร้อนใจกระวนกระวายเพราะกลัวถูกฆ่า เห้งเจียก็ปลอบโยนต่าง ๆ นานา ให้เชื่อในความสามารถของตน จากนั้นก็ชักตะบองออกมาจากรูหู เสกคาถาให้กลายเป็นสว่าน หมุนไขตู้เป็นรูเล็ก ๆ แล้วตัวเองก็แปลงเป็นมดตะนอย ไต่ลอดรูออกไปนอกตู้ แล้วถอนขนเสกเป็นหนอนหาวนอนหลายพันตัว จากนั้นก็ร่ายมนต์เรียกพระภูมิเจ้าที่ผีปีศาจมาแจกหนอนหาวนอนให้ แล้วสั่งให้เอาไปใส่ปากใส่ตาพระราชารวมทั้งข้าราชบริพารในวังหลวงทั้งหมด 

เมื่อพระภูมิเจ้าที่และสมุนผีไปตามคำสั่งแล้ว เห้งเจียก็ถอนขนเสกให้เป็นเห้งเจียอีกนับจำนวนพัน ๆ แต่ละตัวถือมีดโกนตัวละเล่ม เห้งเจียสั่งให้ทุก ๆ ตัวเข้าไปในวังหลวง แล้วโกนหัวพระราชา ข้าราชบริพาร และทหารในขณะหลับใหลให้หัวโล้นทุกคน

เมื่อสั่งการเสร็จสรรพ เห้งเจียก็กลับเป็นมดตะนอยไต่เข้ารูสว่านเข้าไปในตู้ตามเดิม ทหารที่ปราบโจรก็หามตู้ใบใหญ่เข้าสู่วังหลวง

ฝ่ายพระราชาและนางสนมกำนัล ข้าราชบริพาร ตื่นขึ้นมามีศีรษะโล้นเกลี้ยง ต่างก็สลดสังเวชใจยิ่งนัก หวนนึกถึงบาปที่ตนเคยฆ่าพระ ก็สะดุ้งใจต่อผลกรรมที่เห็นทันตานี้ จึงตั้งพระทัยเด็ดขาดว่าจะเลิกฆ่าพระ และจะทำแต่การบุญต่อไป

ครั้นพวกทหารเปิดตู้ใบใหญ่ พระถังซัมจั๋ง เห้งเจีย โป้ยก่าย และซัวเจ๋ง ผู้เป็นสงฆ์ทั้ง ๔ รูปก็เดินออกมาอย่างสง่าผ่าเผย พระราชาเห็นเช่นนั้นก็ถวายสักการะ ทรงตื้นตันพระทัยและศรัทธาในพระถังยิ่งนัก เมื่อทราบความประสงค์ของพระถังที่จะเดินทางไปไซทีเพื่ออาราธนาพระไตรปิฎกไปยังเมืองจีน

พระถังจึงเปลี่ยนชื่อเมืองฆ่าพระนี้เสียใหม่ ให้เป็นเมืองรักษาธรรม ครั้นได้รับตราประทับหนังสือผ่านเมืองแล้ว พระถังและศิษย์ก็ถวายบังคมลาพระราชา มุ่งหน้าสู่ไซทีต่อไป..............



Photobucket





รูป : เมืองฆ่าพระ สำคัญ ๆ ผ่านไปทื่อ ๆ เป็นจอดแน่ เรียกว่าฆ่ามา ๙,๙๙๖ รูป หมื่นทั้งหมื่นเป็นไปไม่รอด

โหงว : พระจำต้องแปลงเป็นฆราวาส หมายความว่า พระนั้น ชืนสำคัญตนว่า "กูเป็นพระ แกเป็นฆราวาสต่ำช้า" แล้วล่ะก็ ความสำคัญตนด้วยอหังการนั้น จะฆ่าความเป็นพระเสียหมดสิ้น

รูป : เอ ? พระขืนไม่คิดว่าตนเป็นพระเดี๋ยวก็กลายเป็นแพะเสียเท่านั้น

นาม : ทำไมเป็นแพะ...?

รูป : คือกินไม่เลือก

โหงว : โง่ไปได้ ความไม่สำคัญตนด้วยอหังการ นั่นแหละคือพระแท้ล่ะ 

รูป : พระแท้จะต้องเกลียดคนชั่ว รักคนดี เข้าข้างคนดีสิ

โหงว : นั่นพระปุถุชน รักคนดี ขยะแขยงคนชั่ว จนตัวเองจะชั่วเสียเองเพราะความเกลียดนั่นล่ะ พระแท้ต้องรักความดีเกลียดความชั่ว ไม่ใช่ไปรักคนดี เกลียดคนชั่วเข้า

นาม : ฮึ...งั้นพระก็ต้องคบกับคนชั่วซี วัดจะได้กลายเป็นซ่องโจร

รูป : นั่นน่ะซี อาจารย์ชักเลอะกันใหญ่แล้วนา

โหงว : พระจริงเกลียดใครไม่ได้ รักและเมตตาเท่านั้น ขืนเกลียดใครจิตใจจะห่างจากความเป็นพระ นั่นคือถูกฆ่า ไม่เห็นหรือ พระทุกวันนี้ ลงได้นั่งคุยกันละก็ ด่าคนโน้นติคนนี้ ซ้ำเติมนินทา ล้วนแต่ขาดเมตตา แล้วจะเป็นพระได้อย่างไรกัน

รูป : เมืองฆ่าพระอยู่ตรงนี้เองซีนี่

นาม : จึงต้องแปลงเป็นฆราวาส

โหงว : ไม่ใช่เพียงนั้นนะ ต้องเห็นผู้อื่นเป็นพระ ให้ฆราวาสเป็นพระ ตัวเองก็จะได้เป็นพระ เห้งเจียให้สมุนโกนหัวพระราชา และทุกคนหมด

นาม : ชักเลอะใหญ่แล้วอาจารย์

โหงว : เห็นคนอื่น ทั้งพระและฆราวาสว่าเป็นพระ ใจของผู้เห็นจะนอบน้อม อ่อนโยนบริสุทธิ์ได้โดยง่ายดาย

นาม : โธ่ ขืนเห็นฆราวาสเป็นพระก็จบกัน พระอะไรมีลูกเป็นโขยง มีเมียน้อยเมียหลวง

รูป : ฮื่อ พระของอาจารย์เขาซี

โหงว : เราอยากจะบอกว่า ที่จริงต้องเห็นทั้งพระทั้งฆราวาสเป็นพระพุทธเจ้าด้วยซ้ำไป

นาม : โธ่ โธ่ พระพุทธเจ้าเล่นม้า พระพุทธเจ้ากินเหล้า พระพุทธเจ้า...โอ๊ย ผมไม่ยอม

รูป : แกไม่ยอมเป็นพระพุทธเจ้าเพราะแกรู้ตัวว่าตัวเองเลวมาก

โหงว : ที่ด่าว่าเขาเลว นั่นเพราะคิดว่าตัวดี แกก็ไม่ยอมเป็นพระพุทธเจ้าด้วยรึ?

นาม : อาจารย์ก็ไม่ยอมเป็นรึ ?

โหงว : ! 

รูป : เอาเถิด เป็นอันว่าเห็นผู้อื่นเป็นพระ ใจก็จะบริสุทธิ์ ก็เลยได้เป็นพระจริง

โหงว : พระเก๊คือคอยจับผิดผู้อื่น ค่อย ๆ โหดร้ายขึ้นทุกที ๆ จนกลายเป็นพระเลวเข้าจนได้

นาม : งั้นวินัยก็ไม่มีความหมายน่ะซี

โหงว : วินัยวางไว้เพื่อช่วยคนล่วงวินัย ไม่ใช่วางไว้สำหรับเล่นงานผู้อื่น

รูป : ช่วยสนับสนุนคนชั่วให้อยู่ในศาสนาซี

โหงว : ช่วยให้คนทำผิดหายขุ่นข้องใจ โดยการทำคืนเสียให้ถูก ถ้าอาบัติร้ายแรงถึงขั้นต้องสึกก็ช่วยให้สึก เพื่อเปลี่ยนวิถีทางของการปฏิบัติธรรมไปสู่เพศฆราวาส ไม่ใช่วินัยฆ่าเขา เข้าใจไหม ? ทั้งหมดต้องทำด้วยเมตตาที่แท้

รูป : ถ้างั้น ผู้ไม่มีวินัยก็คือผู้ชอบใช้วินัยจับผิดเพื่อนด้วยความขุ่นแค้นสิครับ

โหงว : ใช่

นาม : เอาละ เห็นผู้อื่นเป็นพระจะได้เป็นพระ

โหงว : ฮื่อ...หากเห็นผู้อื่นเป็นอุบาสก พระก็คอยแบมือขอ ไม่คิดให้เลย เห็นผู้อื่นเป็นพระแล้ว บางทีจะถวายของให้อุบาสกบ้างกระมัง

รูป : จึงแต่งให้เห้งเจียปลอบพระถังว่า "แม้เป็นเมืองฆ่าพระ แต่เห็นรัศมีรุ่งเรืองโชติช่วง"

โหงว : ใช่ ยิ่งเห็นผู้อื่นบริสุทธิ์ ใจยิ่งรุ่งเรืองขึ้น จิตบริสุทธิ์ โลกก็บริสุทธิ์ โลกบริสุทธิ์ จิตก็บริสุทธิ์

นาม : ผมกลืนไม่ค่อยลงครับ โลกบริสุทธิ์นี่ เพราะมันโสโครกชั่วช้าสิ้นดี

โหงว : นั่นเพราะใจของเธอโสโครกเอง

รูป : ไม่ใช่อาจารย์ บริสุทธิ์ทั้งนั้น บริสุทธิ์ชนิดโสโครกเน่าเฟะ

โหงว : ทุกสิ่งเป็นกลาง ๆ หาดีหาชั่วไม่ ดูให้ดีโลกบริสุทธิ์อยู่เองแล้ว

นาม : เอ้า...ผมยอมทีหนึ่งก่อน เพื่อให้เล่าต่อไป เป็นอันว่าเห็นผู้อื่นเป็นพระตนจะได้เป็นพระ

รูป : จึงอุปมาว่าคณะไปไซที นุ่งห่มแบบฆราวาส แล้วเห้งเจียไปโกนผมพระราชาข้าราชบริพาร และทหารให้เป็นพระหมดสิ้น จึงผ่านเมืองฆ่าพระไปได้

นาม : กลุ้มใจอาจารย์...........โวหารหาเรื่อง

รูป : คงถูกชาวเมือง...........ลงทัณฑ์มั่นคง

นาม : เห็นสกเป็นพระ...........จะได้เป็นสงฆ์

โหงว : ต่อนี้ผีหลง................กตัญญูรู้คุณ

นาม : .......!!!?


(จบบทที่ ๓๙ โปรดติดตามตอนต่อไป...)





** คัดจาก "เดินทางไกลกับไซอิ๋ว" โดย "เขมานันทะ" หน้า ๒๒๕ - ๒๓๒ )

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น