หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

(ตอนที่ ๕๒) บทที่ ๔๙ มลทินของผู้ทรงปิฎก

บทที่ ๔๙
มลทินของผู้ทรงปิฎก
และสิ่งที่หาไม่ได้ในพระไตรปิฎก


ฝ่ายโพธิสัตว์กวนอิม ครั้นบรรดาเทพารักษ์ที่เคยตามคุ้มครองพระถังเข้ารายงานผลงานแล้ว ทรงรับสั่งให้เทพารักษ์รักษาทิศทั้ง ๕ ไปแจ้งให้ท้าวกิมกังทั้ง ๘ ที่กำลังอุ้มพระถังและศิษย์กลับเมืองจีนนั้น ให้บันดาลให้พระถังได้รับเคราะห์ร้ายครั้งสุดท้าย

ท้าวกิมกังรับทราบคำสั่งของกวนอิมแล้ว เมื่อเหาะมาถึงแม่น้ำทงทีฮ้อ ก็ปล่อยวางพระถังและศิษย์ลงยังพื้นดิน เห้งเจียนั้นหยั่งรู้ความที่พระถังต้องประสบภัยแล้ว จึงไม่ยอมอุ้มพระถังเหาะข้ามลำน้ำไป

ขณะที่รีรอกันริมฝั่นนั่นเอง เต่าขาวตัวเดิมก็โผล่ขึ้นมาร้องเชิญทุกคนขึ้นขี่หลัง ศิษย์และอาจารย์ต่างก็ยินดียิ่ง พากันลงยืนบนหลังเต่า เต่าว่ายตัดกระแสน้ำตรงไปยังฟากตรงข้าม 

ครั้นมาถึงกลางลำน้ำ เต่าขาวก็เอ่ยถามพระถังขึ้นว่า ที่ฝากไปถามพระยูไลว่า " เมื่อไหร่หนอเต่านี้จะได้เป็นมนุษย์...?" 

ฝ่ายพระถังนั้น ความที่จดจ่ออยู่แต่เรื่องพระไตรปิฎก จึงลืมคำถามฝากของเต่าเสียสนิท เมื่อถูกทวงถามก็นิ่งอั้นอยู่ 

ฝ่ายเต่าขาวเห็นเช่นนั้น ก็รู้ว่าพระถังไม่เอื้อเฟื้อ จึงดำวูบลงในแม่น้ำ ทั้งอาจารย์และศิษย์ก็หลุดจากหลังเต่า แต่ก็หาจมน้ำไม่ เพราะกายเบาผิดคนสามัญ ฝ่ายเห้งเจียก็แผลงฤทธิ์รวบพระคัมภีร์ อานม้าและข้าวของไว้ได้ก่อนที่มันจะจมลงใต้น้ำ

ทั้งหมดขึ้นถึงฝั่งตรงกันข้ามด้วยเนื้อตัวที่เปียกปอน พระถังนั้นหนาวสั่น มือทั้งสองข้างชาเพราะหอบพระไตรปิฎกไว้แน่น ท้องฟ้าก็มืดมิด เพราะมีพายุจัด 

รุ่งเช้า เมื่อพายุสงบ อาจารย์และศิษย์ต่างก็ช่วยกันผึ่งพระคัมภีร์ให้แห้ง พระถังก็นั่งเฝ้าดูพระคัมภีร์อยู่ ในขณะนั้น ตาเฒ่าตั๊นเท่ง ตั๊นเซ้ง และชาวบ้านตั๊นแกจึง ได้ออกมาคารวะพระถัง ตั๊นเท่งถามพระถังถึงเหตุร้ายที่เกิดกลางน้ำ พระถังก็เล่าว่า " เพราะเราลืมคำถามฝากของเต่า คัมภีร์จึงเปียกแฉะหมด "

ครั้นพระคัมภีร์เหล่านั้นแห้งสนิทแล้ว ต่างก็ช่วยกันรวบรวมเก็บ จึงได้พบว่า เนื้อความพระคัมภีร์ปุนเห้งเกงสองสามเล่ม แห้งติดกับหินอยู่ "อักขระที่สำคัญจึงได้ขาดหายไป " 

พระถังเห็นเช่นนั้นก็กล่าวโทษว่า เห้งเจียไม่ดูแลให้ดี เห้งเจียก็อธิบายว่า "เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเพราะฟ้าดินจะมิยอมให้พระคัมภีร์นั้นครบถ้วน เพราะว่าพระธรรมล้ำลึกวิเศษสุดนั้น เกินวิสัยของคัมภีร์จะบันทึกได้"

ตาเฒ่าแซ่ตั๊น ก็นิมนต์พระถังและศิษย์ไปที่บ้าน แล้วถวายภัตตาหารการบุญเอิกเกริก แต่อาจารย์และศิษย์นั้น บัดนี้ เบื่อหน่ายต่ออาหารของปุถุชน จึงไม่มีผู้กินภัตตาหารเลย 

เสร็จการบุญแล้ว ตาเฒ่าและชาวบ้านต่างช่วยกันสร้างอาราม ชื่อ เซงยี่(ช่วยชีวิต) เพื่อระลึกถึงพระถังและศิษย์ แล้วนิมนต์ให้ไปพักค้างอยู่ที่อารามแห่งนั้น แล้วลอบใส่กุญแจขังพระถังไว้ เพื่อเขาจะได้ทำบุญต่อไปอีกในวันรุ่งขึ้น พระถังเกรงว่าชาวบ้านจะไม่ยอมให้ลาจาก จึงให้เห้งเจียสะเดาะกุญแจแล้วหนีไปกลางดึก

กล่าวถึงท้าวกิมกังทั้ง ๘ ครั้นเห็นว่าพระถังหมดสิ้นภัยตามอำนาจของฟ้าดินทุกประการแล้ว ก็เหาะลงมาโอบอุ้มพระถังและศิษย์ พามุ่งตรงไปยังเมืองเชียงอาน แผ่นดินไต้ถัง

ฝ่ายพระเจ้าถังไทจงฮ่องเต้ ทราบข่าวที่พระน้องยาเธอถังซัมจั๋งกลับถึงเมืองเชียงอาน พร้อมทั้งพระไตรปิฎกครบถ้วน ก็ทรงปีติโสมนัส เสด็จออกมารับพระถังแล้วพาขึ้นสู่ท้องพระโรง พระถังกราบบังคมทูลรายงานการเดินทางแต่โดยย่อ

พระเจ้าถังไทจงฮ่องเต้ทรงมีพระราชศรัทธาใหญ่ ทรงแต่งคำประพันธ์ แล้วให้คัดลอกพระธรรมคำสอนเผยแผ่พระธรรมคุณ พร้อมทั้งยกย่องเกียรติคุณของพระถังให้ลือเลื่องไปทั่วเมืองจีน 

จากนั้น พระองค์ทรงอาราธนาให้พระถังซัมจั๋งแสดงพระธรรมเทศนา ในขณะที่พระถังแสดงธรรมอยู่บนธรรมาสน์นั้น ท้าวกิมกังทั้ง ๘ ก็ร้องเรียกพระถังอยู่บนอากาศ แล้วท้าวกิมกังก็มาอุ้มหอบเอพระถังเหาะลิ่วไปสู่เขาเล่งซัว วัดลุยอิมยี่ เพื่อรับเกียรติคุณจากพระยูไล







รูป : คำฝากถามของเต่าว่าอย่างไรนะ ?

นาม : เมื่อไหร่นะ คนในโลกจึงจะยอมรับว่า คุณธรรมอย่างเต่านั้นคือมนุษยธรรมที่แท้ ...?

รูป : อะไรเล่าคือคุณธรรมอย่างเต่า...?

นาม : ซื่อสัตย์ ไร้เดียงสา..........ไร้มายาไร้ปลิ้นปล้อน
สงบใจไม่เร่าร้อน............นอนแช่น้ำฉ่ำชีวี

รูป : ถ้ากิเลสรุมสุมมาเล่า...?....

นาม : .....................หดเข้ากระดองผ่องราศี
หัวหนึ่ง ตีนอีกสี่

รูป : อ๋อ ขันธ์บริสุทธิ์หยุดอุปาทาน......

โหงว : วุ่นโลกีย์เปรียบขี่เรือเหาะ........เร็วเหมาะเจาะเพาะสังสาร

นาม : แต่ขี่เต่าเข้านิพพาน................

โหงว : ไปเร็วเหลือ เชื่อไหมเธอ...?

รูป : เป็นอันว่า ซื่อบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา ไร้มายาสาไถยคือมนุษยธรรมแท้ ที่คนฉลาดเฉโกในโลกหาว่าเป็นคนโง่เง่า ไม่ยอมรับแล้วยังหมิ่นเหยียดหยามนานา

นาม : ด้วยเหตุฉะนี้................พระคัมภีร์จึงเปียกแฉะ

รูป : รู้ปิฎกกระดกแกละ........แหละยกหางวางท่าทาง

นาม : คัมภีร์จึงมีมลทิน...........เพราะหมิ่นทางสะอาดสว่าง

โหงว : ปิฎกจึงตกค้าง..............อักขระด้วนกระบวนธรรม

รูป : เป็นอันว่า ธรรมแท้ที่เป็นส่วนคุณธรรมของเต่าคือซื่อบริสุทธิ์ไร้เดียงสานั้น มักจะหาไม่พบในผู้รู้เทศน์ รู้ท่อง รู้เรียนพระไตรปิฎก

นาม : เพราะว่าคุณธรรมชนิดนี้ถูกลบอักขระออกจากพระคัมภีร์...

รูป : ยิ่งเรียนมาก ค้นคว้าจนตาลายยิ่งหาไม่พบ

โหงว : พบแต่ตัวตนในทางแตกฉาน จนยกหางข่มผู้อื่น ยิ่งไม่เป็นเต่า

รูป : กลับเป็นสัตว์ มีหูมีหางกระดก หดไม่ลง จมไม่ลง

นาม : ไม่มีกระดองสำหรับหดหัวหดตีนอย่างเต่านี่...

รูป : เอาล่ะ ต่อไปพระถังและศิษย์เบื่อหน่ายอาหารของปุถุชน ไม่มีผู้กินอาหารเลย...?

นาม : กิเลสโลภลาภอาบสักการ......คืออาหารของปุถุชน
พอชีวินสิ้นกังวล................. วิมุติปริ่มอิ่มนิรันดร์

โหงว : การกินนั้นมีอยู่...................แต่ผู้กินมิใช่ "ฉัน"

รูป : อ๋อ...ธาตุลิ้นกินรสอัน -........สักว่าธาตุ ปราศตัวตน

นาม : เอ้า.....เขาขังพระถังไว้.........หวังถวายกองลาภผล

รูป : เห้งเจียโง่พิกล....................ไฉนะสะเดาะ เหาะกลางดึก?
เห็นมีแต่พระตะกละ............ประจบสก อกระทึก

โหงว : ข้อนี้ไว้ให้เจ้าตรึก................นึกตรองดู คงรู้เอง

รูปนาม : ...เฮ้อ...กลุ้ม


(จบบทที่ ๔๙ โปรดติดตามตอนต่อไป...)






* คัดจาก "เดินทางไกลกับไซอิ๋ว" โดย "เขมานันทะ" หน้า ๒๙๕ - ๓๐๑ )

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น