หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

(ตอนที่ ๒๐) บทที่ ๑๗ ละนิวรณ์ ๕ ด้วยองค์ฌาน ๕ ชีวิตจะ "บาน" ขึ้นระดับหนึ่ง

บทที่ ๑๗
ละนิวรณ์ ๕ ด้วยองค์ฌาน ๕ ชีวิตจะ "บาน" ขึ้นระดับหนึ่ง


ศิษย์และอาจารย์ออกจากเมืองเชียงโป้ก๊กแล้ว ร่าเริงบันเทิงใจ มุ่งเดินหมายทิศตะวันตก พักหนึ่งก็ลุถึงภูเขาเพ่งเต๊งซัว ณ ภูเขานั้นมีสำนักชื่อ เน่ยฮวยต๋อง เป็นนิวาสถานของปีศาจสองพี่น้องคือกิมกั๊กไต้อ๋อง กับงึ้นกั๊กไต้อ๋อง สองปีศาจมีอาวุธวิเศษ ๕ อย่าง

กิมกั๊กผู้พี่มีขวดน้ำมนต์ทำด้วยหยกส่องสว่างไปทั้งถ้ำกับพัดไฟวิเศษ งึ้นกั๊กมีน้ำเต้าวิเศษกับเกี่ยม(ดาบ)วิเศษ ส่วนเชือกวิเศษนั้นฝากไว้กับมารดาที่เขาเอี๋ยมเล่งซัวถ้ำเอี๋ยมเล่งต๋อง

ปีศาจสองพี่น้องทราบกิตติศัพท์ว่า พระถังกำลังเดินทางไปไซที ก็หมายจะจับกินเนื้อให้ได้ ก็จับโป้ยก่ายผู้เดินล่วงหน้าคณะไปขังไว้ งึ้นกั๊กแปลงกายเป็นตาเฒ่าถือพรต ขาพิการ และขอขี่คอเห้งเจีย เห้งเจียก็ให้ขี่ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเป็นปีศาจ ฝ่ายงึ้นกั๊กก็รู้ว่าเห้งเจียรู้ จึงเรียกภูเขา ๓ ลูกมาครอบทับเห้งเจียไว้ แล้วบันดาลเป็นลมหอบพระถังกับซัวเจ๋งเข้าไปขังไว้ในถ้ำ เตรียมจะต้มกินเนื้อ

ฝ่ายเห้งเจียหลุดรอดมาจากเขาสามลูกเพราะเจ้าที่เจ้าเขาช่วย ยังมิทันได้ตามไปช่วยพระถัง ปีศาจทั้งสองก็มอบขวดน้ำมนต์หยกและน้ำเต้าให้สมุนใหญ่คือปีศาจเจ่งเสย และเส่งหลี เพื่อนำไปเรียกเห้งเจียเข้าไปในขวด เห้งเจียก็หลอกต้มเอาอาวุธทั้งสองเสีย กิมกั๊กงึ้นกั๊กทราบเช่นนั้นก็เดือดดาล ใช้ให้ปีศาจน้อยปาซัวเฮ้ากับกี๋ฮั้ยเล้ง ไปเชิญมารดามากินเลี้ยงเนื้อพระถัง พร้อมทั้งให้นำเชือกวิเศษมาด้วย เห้งเจียก็ตามไปฆ่าปีศาจน้อยทั้งสอง รวมทั้งมารดาของกิมกั๊กงึ้นกั๊กด้วย นางกลับกลายเป็นเสือปลาเก้าหาง 

เห้งเจียก็ปลอมเป็นมารดาของสองปีศาจกลับมาที่ถ้ำ ปีศาจจับได้ก็สู้รบกันโกลาหล เห้งเจียไม่รู้คาถาใช้เชือกวิเศษ เชือกจึงมัดเอาตัวเองล้มกลิ้ง ปีศาจทั้งสองจับได้ เห้งเจียดิ้นหลุด คว้าน้ำเต้าวิเศษของปีศาจ ร้องเรียกชื่องึ้นกั๊ก งึ้นกั๊กขานรับก็เลยถูกดูดเข้าไปอยู่ในน้ำเต้า ดิ้นขลุกขลัก

ฝ่ายกิมกั๊กเห็นปีศาจน้องพ่ายแพ้แก่เห้งเจีย จึงหยิบดาบและพัดวิเศษออกมาสู้รบ แล้วเผลอสติง่วงหลับฟุบลง เห้งเจียก็แอบเข้าลักขวดน้ำมนต์หยกวิเศษได้ กิมกั๊กเห็นทีจะพ่ายแพ้ก็เหาะไปตามปีศาจอาชิดไต้อ๋องน้าชายมา พร้อมด้วยไพร่พลปีศาจชายหญิง เห้งเจียให้ซัวเจ๋งระวังพระถัง ตัวเองกับโป้ยก่ายก็รุมกันรบกับอาชิดไต้อ๋อง รบกับพักใหญ่ซัวเจ๋งก็เข้าช่วยด้วย โป้ยก่ายได้ทีก็เอาคราดวิเศษสับร่างของอาชิดตาย ร่างก็กลายเป็นเสือปลา

ฝ่ายกิมกั๊กเห็นเช่นนั้นก็โกรธ เข้าสู้ไม่คิดหนี เห้งเจียได้โอกาสก็ร้องเรียกชื่อกิมกั๊ก กิมกั๊กเผลอขานรับก็ถูกดูดเข้าไปอยู่ในขวดน้ำมนต์วิเศษ 

เป็นอันว่าปีศาจถูกริบอาวุธทั้ง ๕ เสียหมดสิ้น เห้งเจียจึงนิมนต์พระถังขึ้นหลังม้าออกเดินทางต่อไป

พักหนึ่ง พรหมท้ายเสียงเล่ากุนก็มาดักหน้าทวงอาวุธวิเศษของปีศาจ เพราะที่แท้นั้นกิมกั๊กกับงึ้นกั๊กคือกิมกงจื้อ ผู้รักษาเบ้าทอง กับงึ้นกงจื้อ ผู้รักษาเบ้าเงินของพรหมท้ายเสียงเล่ากุนที่แอบลักอาวุธวิเศษแล้วแปลงกายมาเป็นปีศาจในมนุษย์โลก เห้งเจียทำไก๋ว่าไม่ได้ริบอาวุธมา ท้ายเสียงเล่ากุนก็ขู่ตะคอก จนเห้งเจียต้องยอมคืนให้

พรหมท้ายเสียกล่าวขึ้นว่า..."แม้นคณะไปไซทีไม่ผ่านการปราบปีศาจนี้แล้ว ไฉนจะบรรลุมรรคผลได้เล่า " เมื่อท้ายเสียงเล่ากุนกลับไปพรหมโลกแล้ว ศิษย์และอาจารย์ก็บันเทิงใจ รีบเร่งดุ่มเดินสู่ป่าใหญ่ หมายทิศตะวันตกเป็นสำคัญ



Photobucket




รูป : แหม อ้ายปีศาจ ๘ ตัวนี่มันร้ายจริง ๆ 

โหงว :เราเล่าย่อน่ะ ความจริงดุเดือดกว่านี้มาก

นาม : ทำไมอาจารย์ไม่เล่าให้ละเอียดล่ะ

โหงว : เรื่องตอนนี้ มันดุเดือดอยู่ในใจเธอ หลายร้อยเท่าของหนังสือไซอิ๋วอีกซี

รูป : เล่าต่อ

นาม : เดี๋ยว ยังไม่เฉลย สำคัญเสียด้วย ที่ท้ายเสียงเล่ากุนกล่าวว่าหากไม่ผ่านปีศาจกลุ่มนี้แล้ว ไฉนจะบรรลุมรรคผลได้เล่า...

โหงว : จริง...

รูป : กิมกั๊ก งึ้นกั๊ก เจ่งเสย เส่งหลี ปาซัวเฮ้า กี๋ฮั้ยเล้ง มารดาของปีศาจสองพี่น้อง และอาชิดไต้อ๋องคือใคร ?

โหงว : ใครอีกแล้วเจ้านี่ เจ้าต้องถามว่าคืออะไรซี ฟังให้ดีนะ...

กิมกั๊กไต้อ๋อง คือ กามฉันทะ
งึ้นกั๊กไต้อ๋อง คือ พยาบาท
เจ่งเสย - เส่งหลี คือ ถีนะ - มิทธะ
ปาซัวเฮ้า - กี๋ฮัยลั้ง คือ อุทธัจจะ - กุกกุจจะ
มารดาของกิมกั๊กงึ้นกั๊ก คือ วิจิกิจฉา


นาม : พุทโธ่ นิวรณ์ ๕ เครื่องปิดกั้นปัญญานั่นเอง 

กระสับกระส่ายเพราะติดรสแห่งกาม คือ กามฉันทะ
ครุ่นเคียดแค้นชิงชังขัดใจอยู่ คือพยาบาท
ง่วงงุน ซึมเซ่อ คือถีนะ
ท้อถอยระโหยละเหี่ย คือ มิทธะ
ฟุ้งซ่านว่อนอยู่ คืออุทธัจจะ
รำคาญใจตนเองหงุดหงิด คือกุกกุจจะ
ไม่อาจวางใจลงได้ เคลือบแคลง อยู่ในความลังเลสงสัยคือวิจิกิจฉา


รูป :เขาไม่ได้ขอร้องให้อธิบายสักหน่อย อาจารย์ครับ แล้วอาชิดไต้อ๋องเล่า ?

โหงว : เดี๋ยวรู้เองน่า

นาม : อาวุธวิเศษละครับอาจารย์ ?

โหงว :ดาบวิเศษ - วิตก, พัดวิเศษ - วิจาร, ขวดน้ำมนต์หยก - ปีติ, น้ำเต้าวิเศษ - สุข, เชือกวิเศษ - เอกัคคตา 

รูป :ลากเข้าหามันก็ได้ล่ะว้า...

นาม : อาวุธวิเศษทั้ง ๕ คือ ฌานังคะหรือองค์แห่งฌานทั้ง ๕ นั่นเอง ละนิวรณ์ ๕ แล้วจะได้องค์แห่งฌาน ๕

โหงว : เดี๋ยว...เจ้านั่นว่าเราแต่งลากเข้าหาความ 
'วิตก' อุปมาด้วยดาบคมกริบ
'วิจาร' - การเคล้าเคลียกระพือของอารมณ์ เปรียบด้วยพัดไฟ
'ปีติ' - ซาบซ่านกระตุ้นซู่ซ่าเย็น ๆ เปรียบด้วยขวดหยกมีน้ำมนต์
'สุข' - ปีติได้แผ่ซ่านลงสู่สงบสุข ว่างกลวงดุจน้ำเต้า
'เอกัคคตา' - จิตเป็นหนึ่งแน่วที่ได้รวบรวมเอาทุกองค์เข้าไว้ดุจเกลียวแห่งเชือก


รูป : ก็ว่าไปได้เรื่อยแหละ เอ้า...เชิญลากเข้าหาความต่อ

โหงว : ปัญญาทำให้ถีนะ- มิทธะถอยกำลัง ก็ได้ปีติ - สุขขึ้นระดับหนึ่ง นี่เป็นก้าวแรกของการละนิวรณ์ เปรียบด้วยเห้งเจียหลอกต้มเอาอาวุธวิเศษขวดหยกกับน้ำเต้าจากสองปีศาจสมุนเอกเจ่งเสย - เส่งหลี

รูป : อ้าว...ว่าไป 

โหงว : เมื่อความซึมเซ่อง่วงงุน ท้อถอยหายไป ปีติ - สุขเกิดขึ้นระดับหนึ่ง ก็ละวิจิกิจฉาลังเลได้ นี่คือการฆ่ามารดาปีศาจตายลง ปีศาจปาซัวเฮ้า กี๋ฮั้ยเพ้ง(ฟุ้งซ่านรำคาญใจ) ก็พลอยตายไปพร้อม ๆ กับวิจิกิจฉานั่นแหละ ก็ได้เชือกวิเศษคือเอกัคคตาจิตมาระดับหนึ่ง - ชั่วระยะหนึ่ง

นาม : แล้วไหงใช้เชือกวิเศษไม่เป็นกลับรัดคอตัวเองเข้า...?

โหงว : นั่นซิ เพราะยังไม่ได้ละกามฉันทะ ซึ่งเป็นคู่ปรับ(เอกัตตะ = ธรรมที่เป็นคู่ปรับกัน)กับเอกัคคตา ละวิจิกิจฉาไปบางระดับ พอจะใช้เอกัคคตาไปสู้รบกับกามราคะ สู้ไม่ได้ กลับรัดตัวเองเป็นกาเมกัคคตา

นาม : ไม่มีในหลักธรรมเลย ผมไม่เคยได้ยิน

โหงว : นั่นซี คือว่า จิตไปมีความเป็นหนึ่งในกามฉันทะเข้า

รูป : ไม่เข้าใจโว๊ย...! 

โหงว : ช่างเอ็ง ไอ้น้ำเต้าวิเศษ คือสุขแล้วพยาบาทก็หายไป เพราะสุขเป็นเอกัตตะของพยาบาท

นาม :จึงให้เห้งเจียถือน้ำเต้าวิเศษร้องเรียกชื่องึ้นกั๊ก ๆ ๆ งึ้นกั๊ก(พยาบาท)จึงถูกสุขดูดมาขังไว้เสีย เป็นอันว่าละพยาบาทได้ สุขเกิด แล้วกามราคะตัวสำคัญละได้อย่างไร?

โหงว :กามฉันทะเห็นทีจะแพ้ วิ่งไปตาม เมถุนสังโยค

รูป :ชักเลอะกันใหญ่แล้ว นิทานบ้าอะไรก็ไม่รู้ ไม่มีคน สัตว์ ตัวตน เรา เขา มีแต่นั่นวิ่งไปหาโน่น โน่นวิ่งไปหาโน้น โน้นวิ่งไปหานู้น...เฮ้อ กลุ้ม

นาม :พุทโธ่ อาชิดไต้อ๋อง น้าของสองพี่น้องคือเมถุนสังโยค ๗ นั่นเอง มิน่าชื่ออาชิด เสือปลาเจ็ดหาง 

หางที่ ๑ ยินดีในการลูบไล้ การนวดแห่งมาตุคาม ปลื้มใจเพราะการบำเรอนั้น
หางที่ ๒ ไม่ยินดีต่อการลูบไล้ แต่ชอบซิกซี้เล่นหัวกับมาตุคาม
หางที่ ๓ ไม่ชอบซิกซี้ แต่ปลื้มใจที่ได้สบตากับมาตุคาม
หางที่ ๔ ไม่ชอบสบตา แต่ชอบฟังเสียง ปลื้มใจเมื่อได้ยินเสียงมาตุคาม
หางที่ ๕ ไม่ชอบใจในเสียง แต่ยังตามรำลึกถึงเรื่องเก่า ๆ
หางที่ ๖ ไม่ชอบตามรำลึกถึงเรื่องเก่า แต่ยังชอบเห็นบุตรคฤหบดี ผู้พรั่งพร้อมด้วยกามคุณ ๕ แล้วพลอยปลื้มใจ
หางที่ ๗ ไม่ถึงอย่างนั้น แต่ประพฤติพรหมจรรย์ หวังจะได้เป็นเทพในสวรรค์ (หวังกามอีกเหมือนกัน)


โหงว :คือว่า แม้กามราคะอย่างแรงกล้าของบรรพชิตที่แม้ปฏิญาณจนว่าเป็นพรหมจรรย์ ไม่เสพเมถุนกับมาตุคามแล้ว แม้นิวรณ์ข้อนี้จะจางลง ก็ยังมีกะลิ้มกะเหลี่ยถึงมันอีกตั้ง ๗ หางแน่ะ

รูป : เสือปลา ๗ หาง แหม ยังเหลือหางแถวของกามฉันทะ ปีศาจหญิง - ชายของอาชิดไต้อ๋องเล่า คืออะไร?

นาม : ก็คืออกุศลกรรมทั้งปวงที่เกิดจากความยึดถือว่าเป็นหญิง(อิตถีสัญญา) หรือเป็นชาย (ปุริสสัญญา) อันเป็นต้นเค้าของกามฉันทะ หรือเมถุนสังโยค

โหงว : ไม่เลว กามฉันทะถูกละด้วยเอกัคคตา เพราะเป็นเอกัตตะแก่กัน แต่แท้จริงเอกัตตะเหล่านี้ แยกกันโดยเด็ดขาดไม่ได้ ย่อมเนื่องกันอยู่ ดังนั้นเราจึงให้อาวุธวิเศษถูกยืมใช้ไปใช้มา โดยกิมกั๊กกามฉันทะเป็นตัวบงการ

นาม : ท้ายเสียงเล่ากุนมาทวงอาวุธวิเศษเล่า?

โหงว : คืออุเบกขา 

รูป :อ้าว...ไหนว่าท้ายเสียงเล่ากุนคือเหลาจื้อ บ๊ะ กลับกลอกจริง

โหงว : เอาอีกแล้วเจ้านี่ โดยรูปธรรมคือเหลาจื้อ แต่ใจของเหลาจื้อคืออุเบกขา (พรหม)

นาม :หมายความว่า เมื่อชีวิตช่วงที่ปัญญาคือสมาธิ ละนิวรณ์ ๕ ได้ ก็ได้องค์ฌาน ๕ องค์ฌาน ๕ มารวบยอดที่อุเบกขา นั่นคือการพบเหลาจื้อ

โหงว : ใช่ซี 

รูป :แล้วไหงให้ทวงของวิเศษไปเสียเล่า?

โหงว : องค์แห่งฌานทั้ง ๕ ไม่ใช่ผลที่สุด จำต้องสละไปเพื่อเจริญวิปัสสนา คือใช้ปัญญาให้เห้งเจียได้ใช้ตะบองยู่อี่ *

รูป : แหม หากว่าไม่ละนิวรณ์ ๕ แล้ว ไม่ได้องค์ฌาน ๕ มรรคผลเป็นอันเป็นไปไม่ได้ ผมคนหนึ่งล่ะ ไม่เอาด้วย โธ่ ! ทำฌานให้ปรากฏง่ายเสียเมื่อไหร่ ?

โหงว : เปล่านะ แท้จริงกามฉันทะพยาบาทมันระงับไปเท่านั้น การระงับนิวรณ์ในกรณีนี้ใช้ปัญญา(เห้งเจีย)ปราบตลอด ดังนั้น แม้ไม่ได้ทำสมาธิโดยวิธีแบบฉบับ แต่โดยใช้ปัญญาก็อาจทำองค์ฌานให้ปรากฏขึ้นได้ในชีวิตประจำวันนี้เอง เข้มขึ้น แน่วแน่ขึ้น แล้วผ่านเลยไป และถ้าโป้ยก่าย ซัวเจ๋ง (ศีล สมาธิ) เข้าร่วมมือด้วย องค์ฌานทั้ง ๕ จะประจักษ์ตามระดับ มากน้อยตามส่วน เราจะเล่าต่อละนะ

รูป : เดี๋ยวก่อนครับ ย้อนไปทีแรก ทำไมงึ้นกั๊กไต้อ๋อง(พยาบาท)ตอนแปลงเป็นตาเฒ่ามาขอขี่คอเห้งเจียล่ะครับ โป้ยก่ายกับซัวเจ๋งตัวโตกว่าอีก ?

นาม : (หัวร่อกั้ก ๆ ) อ้ายเซ่อ พยาบาทมันก็ชอบขี่คอคนมีปัญญาซีวะ 

โหงว : ไม่มีคน ไม่มีคน

นาม : ผมขอสรุปว่า ละนิวรณ์ ๕ ได้ ชีวิตก็ดุจดอกไม้ที่กลีบห้ากลีบ...คือองค์ฌาน ๕ ที่ทุกคนมีอยู่แล้วก็จะคลี่บานออก

รูป : ถ้ำปีศาจแห่งนี้จึงมีชื่อว่า เน่ยฮวยต๋อง...ถ้ำดอกบัว

โหงว : ไม่เลว แต่บานออกระดับหนึ่งเท่านั้น

รูป : เล่าต่อ

โหงว : บทต่อไปเราจะเล่าถึงช่วนจินเต้าหยิน สหายของงึ้นกั๊ก ชอบไปมาหาสู่กันนัก

นาม : ?

*ยู่อี่ โดยความหมายตรงกับมโนหรจินดามณี คือแก้วสารพัดนึกที่จะบันดาลอะไร ๆ ได้ดังใจ


(จบบทที่ ๑๗ โปรดติดตามตอนต่อไป...






** คัดจาก "เดินทางไกลกับไซอิ๋ว" โดย "เขมานันทะ" หน้า ๖๗ - ๗๑ )

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น