หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

(ตอน ๒๕) บทที่ ๒๒ ปริยัติเฟ้อดุจหมอกมัว

บทที่ ๒๒
ปริยัติเฟ้อดุจหมอกมัว


ท่ามกลางแสงจันทร์สว่างในคืนฤดูร้อน และตอนกลางวันมีท้องฟ้าแจ่มใส ศิษย์และอาจารย์รอนแรมมาจนบรรลุถึงแม่น้ำ ทงทีฮ้อ(ฟ้าทะลุ) ฝั่งกว้างไกลสุดวิสัยสายตาของเห้งเจียจะแลเห็นได้ มีเสาศิลาสลักอักษรว่า "เกียก่วยโป๊ยเชยลี้โก๊โป้นั้งเกี๊ย - ข้ามได้สิ้นแปดพันลี้(หาก)เดินมาไม่มีผู้เดิน" 
ศิษย์และอาจารย์ตริตรองแล้วก็เดินเลียบฝั่งมาพักที่หมู่บ้าน ตั๊นแกจึงได้พบกับตาเฒ่า ๒ พี่น้องแซ่ตั๊น อันเป็นแซ่เดียวกันกับพระถัง (ตั๊นเหี้ยนจึง) คนพี่ชื่อตั๊นเท่ง มีธิดาชื่อเจ๊กชิ้นกิม ตาเฒ่าผู้น้องชื่อตั๊นเซง มีบุตรชายชื่อตั๊นกวนโป๊

ตาเฒ่า ๒ พี่น้องได้เล่าความทุกข์ความโศกให้เห้งเจียฟัง เพราะถึงวาระที่พวกตนจะต้องส่งบุตร-ธิดา ให้ปีศาจเล่งก้ำอึ้ง ที่มันมาแย่งอำนาจในลำน้ำทงทีฮ้อ จากเต่าขาว ทุก ๆ ปีชาวบ้านตั๊นแกจึงจะต้องจัดบุตรธิดาไปไว้ที่ศาลเจ้า ริมแม่น้ำ สังเวยแก่ปีศาจร้าย

เห้งเจียสงสารตาเฒ่าก็รับอาสาจะช่วย ชวนโป้ยก่ายไปที่ศาลเจ้าโดยปลอมเป็นเด็กหญิงชายทั้งคู่ ฝ่ายปีศาจเล่งก้ำอึ้งถึงเวลามากินเครื่องเซ่นก็โผล่จากแม่น้ำขึ้นมาที่ศาล โป้ยก่ายเผลอตัวแสดงพิรุธ ปีศาจจึงรู้ทันจึงสู้รบกันโกลาหล ปีศาจสู้สองเกลอไม่ได้ก็ผูกอาฆาต หลบหนีลงน้ำไปคิดแผนการจะจับพระถังมากินเนื้อ
ในตอนดึกคืนนั้น พระจันทร์สว่างขาวนวล เล่งก้ำอึ้งได้บันดาลให้เกิดหมอกมัวฟุ้งขาวไปทั้งลำน้ำ ทำให้ผิวน้ำจับตัวกลายเป็นน้ำแข็ง แล้วให้สมุนปีศาจแปลงเป็นพ่อค้าจูงลาจูงม้าข้ามไปมาบนผิวน้ำ เพื่อล่อลวงพระถัง ฝ่ายพระถังนั้นมีใจจดจ่อแต่การไปให้ถึงไซที ครั้นตื่นขึ้นกลางดึกได้ยินเสียงพ่อค้าจูงลาเดินข้ามมาบนผิวน้ำแข็งก็ปลุกสานุศิษย์อำลาเจ้าของบ้านแล้ว ให้เห้งเจียนำหน้า ซัวเจ๋งจูงม้าเดินมาท่ามกลางแสงเดือนและหมอกขาว ครั้นพอถึงกลางลำน้ำทงทีฮ้อ ปีศาจเล่งก้ำอึ้งก็บันดาลให้น้ำแข็งละลาย ทางเดินก็ยุบฮวบลง จึงจับตัวพระถังไว้ได้ เอาไปขังไว้ในปราสาทใต้น้ำ เตรียมต้มกินเนื้อ

ฝ่ายเห้งเจียเหาะขึ้นบนฟ้าได้ทัน โป้ยก่าย ซัวเจ๋งและม้านั้นชำนาญทางน้ำจึงรอดมาได้ ก็กลับมาสู่หมู่บ้านตั๊นแกจึงตามเดิม โป้ยก่าย ซัวเจ๋งลงไปรบล่อปีศาจให้ขึ้นบก เพื่อให้เห้งเจียฆ่า แต่ไม่สำเร็จ ปลุกปล้ำกันโกลาหล จนเห้งเจียต้องเหาะลิ่วไปเขาน่ำไฮ้ เพื่อนิมนต์พระโพธิสัตว์กวนอิมมาช่วย

ฝ่ายพระโพธิสัตว์กวนอิมทราบอยู่แล้วว่า ปีศาจเล่งก้ำอึ้งนั้นที่แท้คือปลาทองที่พระองค์ทรงเลี้ยงไว้ดูเล่นในสระ และมันชอบโผล่ขึ้นมาฟังเทศน์ทุกวันอยู่นานปี ยู่มาวันหนึ่งน้ำเกิดท่วมท้น ปลาทองได้โอกาสก็แปลงเป็นปีศาจมาเป็นใหญ่อยู่ในแม่น้ำทงทีฮ้อ(ฟ้าทะลุ)

ครั้นพอเห้งเจียไปถึงสำนัก ก็พบกวนอิมกำลังสานตะกร้าไม้ไผ่ เสร็จแล้วทั้งสองต่างเหาะกลับมายังแม่น้ำ กวนอิมทรงขว้างตะกร้าไม้ไผ่ลงไปลากตัวปลากิมหลีฮื้อ(ปลาทอง)ขึ้นมาได้ ก็นำกลับไปเลี้ยงยังสระที่น่ำไฮ้ โป้ยก่าย ซัวเจ๋งผู้ถนัดทางน้ำก็ลงไปแก้มัดพระถังขึ้นมา

ฝ่ายชาวบ้านตั๊นแกจึงรู้ข่าวว่าปีศาจถูกจับไปแล้ว เพราะลูกศิษย์ของพระถัง ก็ยินดียิ่งนัก ตามมาจะเอาเรือไปส่งฟากตรงข้าม ขณะที่รีรอกันอยู่นั่นเอง เต่าขาวตัวมหึมาได้โผล่ขึ้นริมน้ำ ร้องตะโกนอย่างสุภาพว่า ขออาสาพาพระถังกับลูกศิษย์ข้ามน้ำ เป็นการทดแทนบุญคุณที่เห้งเจียช่วยให้ปราสาทใต้น้ำของตนพ้นจากการยึดครองของปีศาจ

เห้งเจียนั้นไม่ค่อยวางใจเต่าขาวนัก แม้ชักชวนกันขึ้นยืนบนหลังเต่ารวมทั้งม้าขาวแล้วก็ตาม มือขวาเห้งเจียยังถือตะบองยู่อี่จ้องจะทุบหัวเต่า มือซ้ายเอาเชือกคล้องคอต่างบังเหียน

เต่าขาวพาศิษย์และอาจารย์ว่ายมาสิ้นวันหนึ่งก็บรรลุถึงฝั่งตรงข้าม พระถังกล่าวคำอำลาว่ามิรู้จะแทนคุณอย่างไร ฝ่ายเต่าขาวขอร้องพระถังว่า "เมื่อท่านไปถึงพระพักตร์พระยูไลแล้ว โปรดช่วยทูลถามด้วยว่า..."เมื่อไหร่รูปเต่านี้จะถูกถอดออกเป็นรูปมนุษย์ได้เสียที" พระถังก็รับคำ แล้วลาจากกันไป



Photobucket




รูป :ปลาทองสวย ๆ ของกวนอิมแปลงเป็นปีศาจมังกรเล่งก้ำอึ้ง

นาม :เพราะน้ำท่วมสระ

รูป :มันชอบฟังเทศน์ มีความรู้แตกฉาน

นาม :พุทโธ่ ปริยัติเฟ้อดุจน้ำท่วม ความรู้อันเป็นเพียงเครื่องประดับหรือดุจปลาทองสีสวย ๆ ไว้ดูเล่นกลับกลายเป็นปีศาจขึ้นมาได้

รูป :คือว่ารู้มากเกินไป ล้นออกมาจนฟ้าทะลุ 
"เข้าคอกไหนขวิดไม่เลือก.....เที่ยวแส่เสือกควายเขากาง
เป็นอ้ายบ้าหอบฟ่อนฟาง.....หรือปีศาจหางไหม้ไฟ"


นาม :อาจารย์ครับ ทำไมต้องให้เป็นปีศาจปลาทองของกวนอิมโพธิสัตว์ด้วยล่ะครับ ?

โหงว : ช่วยสรรพสัตว์ต้องแสวงหาความรอบรู้ แต่เผลอเข้ามันกลับเป็นปีศาจได้เหมือนกันนะเออ

รูป :ผลของปริยัติเฟ้อ ?

โหงว : ก็กลายเป็นปีศาจคอยจับเด็กหญิงชายกิน ทั้งหญิงทั้งชายถูกปีศาจบ้าความรู้จับกิน เทศน์ทะลุฟ้าอยู่นั่น

นาม :ตาเฒ่าตั๊นเท่ง ตั๊นเซง เจ๊กชิ้นกิม ตั๊นกวนโป๊ ทั้งตระกูลแซ่เดียวกับพระถัง ?

โหงว : สัมมัปปธาน ๔ เฒ่าตั๊นเท่งคือ สังวรปธาน - เพียรสำรวมระวังไมให้อกุศลธรรมที่ยังไม่เกิดไม่ให้เกิดขึ้น, ลูกหญิงเจ๊กชิ้นกิม คือ ปหานปธาน - เพียรละอกุศลธรรมที่เกิดแล้ว, เฒ่าตั๊นเซง คือ ภาวนาปธาน - เพียรสร้างกุศลที่ยังไม่เกิดให้เกิด, ตั๊นกวนโป๊ คืออนุรักขนาปธาน - เพียรตามรักษากุศลที่เกิดแล้วให้ดำรงอยู่, ทั้งสี่แซ่ตั๊น เพราะเป็นองค์แห่งมรรค คือสัมมาวายาโม - ความเพียรชอบ ความเพียรก็ต้องแซ่เดียวกับขันติ(พระถัง)ซี

รูป :แล้วไงดันใหเปีศาจปริยัติเฟ้อมากินชาวบ้านตั๊นแกนี้ทุกปีเล่า?

นาม :พุทโธ่ งายออก เรียนมากแล้วมันไม่คิดปฏิบัติ ปริยัติเฟ้อจนกุศลธรรมอ่อน ๆ ที่เปรียบด้วยเด็กชายหญิงที่มีอยู่บ้างก็ถูกปีศาจเขมือบหมดน่ะซี

รูป :ปีศาจผูกอาฆาตที่เห้งเจีย โป้ยก่ายไปรบกวนมัน ?

นาม :ปัญญาและศีลเตรียมจับเท็จ ปริยัติเฟ้อ ปัญญาปริยัติเฟ้อ มันก็เตรียมแก้ตัวซีวะ

รูป :แล้วปีศาจบันดาลเป็นหมอกมัวฟุ้งเฟ้อไปทั้งลำน้ำฟ้าทะลุเล่า ?

นาม :(หัวเราะ) ความรู้สุมยิ่งคลุมเครือ..........มันมืดเหลือแต่ "มืดขาว"
ดุจพร่าหมอกหลอกตาพราว....ปิฏกปรุ เทศน์ทะลุฟ้า

รูป :(หัวเราะ) ทางผีล่อพอได้ที................ปีศาจฉุดต้องงุดหน้า
หันพึ่งเต่า"ไร้เดียงสา"..........ข้ามปลักปริยัติ หัด "ทำโง่"

นาม :นี่แกรู้รึว่าเต่าขาวคืออะไร ?

รูป :พุทโธ่ ดูถูกกันได้ เต่าขาวคือคุณธรรมอย่างง่าย คือซื่อ บริสุทธิ์ ไร้เดียงสา ที่หมู่นักปริยัติทั้งหลายหาว่าโง่ดุจเต่านั่นแหละ แท้จริงมันอาจข้ามความรกรุงรังของปริยัติไปได้ ในขณะที่ปริยัติมากมายกลับเป็นอุปสรรคขึ้นเสียเอง เป็นผีมาแย่งปราสาทเต่า

นาม :นี่คือข้อหาที่นักปริยัติโจทก์แก่ผู้มีคุณธรรม "เต่าขาว" ทั้ง ๆ ที่โดยเนื้อแท้นี่กลับเป็นการข้ามฟากอย่างง่ายดาย

รูป :เห้งเจียไม่ค่อยเชื่อนัก ถือตะบองจ้องจะทุบหัวอยู่เรื่อย ฮื่อ เจ้าปัญญานี่ลังเลต่อความซื่อเพราะมันเกรงว่าจะโง่

โหงว : เพราะเหตุที่มนุษย์ทั่วไปหมิ่นคุณธรรมพื้นฐานนี้นั่นแหละ เต่าขาวจึงฝากพระถังไปถามพระตถาคตว่า...

รูป :...เมื่อไหร่หนอ ? หมู่มนุษย์จะยอมรับกันว่า ความเป็นเต่าขาวนี้แหละ คือมนุษยธรรมที่แท้

นาม :จึงฝากถามว่าเมื่อไรหนอ เต่าจึงจะถอดรูปเป็นมนุษย์ 

โหงว : จริง ๆ นา เราจะเล่าว่าในตอนสุดท้าย พระถังจะต้องได้รับเคราะห์ เพราะเหตุดูถูกคุณธรรมชนิดนี้ มัวมุ่งแต่แบกปิฎกอยู่

รูป :เดี๋ยวก่อน ในตอนต้นมีเสาศิลาจารึกที่ริมแม่น้ำทงที

นาม : "ข้ามได้สิ้นแปดพันลี้.........หากไม่มีผู้เดินมา

รูป : พุทโธ่เอ๋ยเฉลยว่า.............. "ไม่มีคน" ดล "หนทาง"

โหงว : จะจับปลาเฟ้อปริยัติ........ให้ขัดตะกร้าตาห่างห่าง ?

นาม : ถี่เกินกลับ "ลอย"คว้าง...........ปีศาจเห็นเผ่นหนีทัน

รูป : สุญญตาตะกร้าโหว่.........ปีศาจโผล่พลันติดตัน

โหงว : ต่อแต่นี้ผีสยองขวัญ..........ต็อกกั๊กกุย "แรดนอเดียว"

รูป :!!

นาม :!!


(จบบทที่ ๒๒ โปรดติดตามตอนต่อไป...)





** คัดจาก "เดินทางไกลกับไซอิ๋ว" โดย "เขมานันทะ" หน้า ๑๑๒ - ๑๑๘ )

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น